ณัฐวุฒิ’แฉลอบสังหาร3ครั้งไม่สำเร็จ7แกนนำสมัครส.ส.
ศาลให้ประกันอดีต ส.ข. แนวร่วมเสื้อแดงเพิ่มอีก 1 คน เผยแค่ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ถูกตั้งข้อหาก่อการร้ายแต่ต้องอยู่ในเรือนจำนานหลายเดือน “ณัฐวุฒิ” เปรยชีวิตไม่ปลอดภัย ไม่รู้ใครจะทำอะไรเมื่อไร ระบุช่วงก่อนสลายการชุมนุมวันที่ 19 พ.ค. 53 ถูกผู้มีอำนาจสั่งลอบสังหาร 3 ครั้งแต่ไม่สำเร็จ ยอมรับแกนนำที่ได้รับประกันตัวอยากลงสมัคร ส.ส. สังกัดพรรคเพื่อไทย ส่วนจะลงระบบเขตหรือบัญชีรายชื่อให้พรรคพิจารณาตามเหมาะสม นักวิชาการเตือนขึ้นเวทีปราศรัยระวังผิดเงื่อนไขศาลต้องกลับไปนอนในเรือนจำ
วันที่ 24 ก.พ. 2554 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก อนุญาตประกันตัวแนวร่วมคนเสื้อแดงเพิ่มอีก 1 คนคือ นายสมชาย ไพบูลย์ อดีตสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) บางบอน พรรคไทยรักไทย
ไม่มีข้อหาก่อการร้าย
นายสมชายถูกตั้งข้อหาร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยผู้กระทำความผิดคนใดคนหนึ่งมีอาวุธ เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก และฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548
แกนนำช่วยเบิกความ-ให้กำลังใจ
ก่อนศาลมีคำสั่งได้เปิดการไต่สวน โดยทนายจำเลยนำพยานเข้าเบิกความประกอบด้วย นายสมพงศ์ ประดิษฐ์วงศ์กุล ผู้อำนวยการส่วนควบคุมผู้ต้องขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน และตัวจำเลย ซึ่งการพิจารณาครั้งนี้มีนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาประธาน นปช. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. ที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว มาให้กำลังใจด้วย
อยู่ในเรือนจำความประพฤติดี
นายสมพงศ์เบิกความว่า ตลอดเวลาที่ถูกคุมขังจำเลยมีความประพฤติดี ไม่กระด้างกระเดื่อง เชื่อว่าหากได้ประกันตัวออกมาจะไม่ก่อปัญหาและไม่หลบหนี
นายวีระกานต์เบิกความว่า จำเลยมีหน้าที่ปราศรัยบนเวทีของ นปช. ตามแนวทางสันติวิธี และเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนให้เจรจากับฝ่ายรัฐบาลเพื่อหาทางยุติการชุมนุมด้วยความสงบเรียบร้อย ทั้งยังเป็นผู้เสนอความคิดให้สลายการชุมนุมไปก่อนที่จะถูกสลาย กระทั่งวันที่ 19 พ.ค. 2553 ที่มีการสลายการชุมนุมจำเลยจึงถูกควบคุมตัวตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ไม่ถูกตั้งข้อหาก่อการร้าย ซึ่งรัฐบาลได้ยกเลิกใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปแล้วตั้งแต่วันที่ 10 ธ.ค. 2553 หากจำเลยได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเชื่อว่าจะปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด
ถูกปล่อยตัวก่อนแจ้งข้อหาเพิ่ม
ขณะที่นายสมชายเบิกความว่า เข้าร่วมกับ นปช. เพราะต้องการเรียกร้องให้ประเทศมีประชาธิปไตยที่แท้จริง มีความยุติธรรมในสังคม และสนับสนุนให้เกิดความปรองดองในชาติ
“หลังถูกเข้าสลายการชุมนุมผมเดินทางกลับไปอยู่ที่บ้านจังหวัดนครศรีธรรมราช ถูกตำรวจเข้าจับกุมเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2553 ข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อครบกำหนดควบคุมตัวในวันที่ 22 มิ.ย. 2553 ศาลไม่อนุญาตขยายเวลาควบคุมตัวจึงได้รับการปล่อยตัว แต่วันที่ 25 มิ.ย. 2553 กลับถูกพนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เรียกตัวไปแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมและถูกคุมขังถึงปัจจุบัน” นายสมชายกล่าวและว่า หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจะไม่หลบหนีและยอมรับเงื่อนไขที่ศาลกำหนด ยืนยันว่ามีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมและพร้อมต่อสู้คดี
ศาลให้ปล่อยตัวค้ำประกัน 1 แสน
หลังการไต่สวนศาลมีคำสั่งว่า พฤติกรรมความผิดของคดีนี้เกี่ยวข้องกับคดีหมายเลขดำที่ อ.2542/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้องนายวีระกานต์กับพวก ซึ่งเป็นแกนนำและแนวร่วม นปช. รวม 19 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย ในคดีดังกล่าวศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวแกนนำหลายคน เนื่องจากการไต่สวนมีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่ง จึงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในคดีนี้เช่นกัน โดยตีหลักทรัพย์ 100,000 บาท และกำหนดเงื่อนไขประกันตัวห้ามไม่ให้จำเลยกระทำการอันเป็นการยั่วยุ ปลุกปั่น ปลุกระดม เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน อันจะทำให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักรหรือให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล
7 แกนนำ นปช. อยากลงสมัคร ส.ส.
นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำ นปช. เปิดเผยว่า 7 แกนนำ นปช. ที่ได้รับการประกันตัวพร้อมกันมีมติร่วมกันในเรือนจำว่าประสงค์จะลงสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เพราะต้องการได้เอกสิทธิ์คุ้มครองจากสภาตามกฎหมาย จะได้ไม่ถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาคดี แต่ขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรคจะพิจารณา
“9 เดือนที่อยู่ในเรือนจำมีความลำบากมาก ถูกผู้คุมที่เป็นเสื้อเหลืองจ้องจับผิด ความจริงพวกผมไม่ต้องการเล่นการเมือง แต่วันนี้ได้เสียสละจากการต่อสู้เพื่อพี่น้องมาตลอดจนได้รับผลกระทบหลายเรื่อง อันนี้ต้องเข้าใจด้วย” นายขวัญชัยกล่าวพร้อมยืนยันว่า วันที่ 12 มี.ค. จะไปขึ้นเวทีปราศรัยของ นปช. แน่นอน มั่นใจว่าไม่เป็นการละเมิดเงื่อนไขศาล เพราะศาลไม่ได้ห้ามวิจารณ์รัฐบาล
ให้พรรคพิจารณาตามเหมาะสม
ด้านนายณัฐวุฒิยอมรับว่า มีความคิดที่จะลงสมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ส่วนจะเป็นระบบเขตหรือระบบบัญชีรายชื่อก็สุดแท้แต่พรรคจะพิจารณาตามความเหมาะสม ส่วนแกนนำคนอื่นๆก็สนใจจะลงสมัครเหมือนกัน แต่คงไม่สามารถยืนยันอะไรชัดเจนได้
“เรื่องการต่อสู้จะทำร่วมกับคนเสื้อแดงต่อไปอย่างแน่นอน และจะสู้ไปจนกว่าจะเกิดประชาธิปไตยที่แท้จริงโดยอำนาจเป็นของประชาชน ไม่ว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไร จะเกิดอะไรกับชีวิตก็จะสู้ต่อแน่นอน”
“ณัฐวุฒิ” เปรยชีวิตไม่ปลอดภัย
นายณัฐวุฒิเปิดเผยด้วยว่า ช่วงที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ค่ายนเรศวร มีตำรวจเล่าให้ฟังว่ามีความพยายามลอบสังหาร 3 ครั้ง ก่อนถึงวันที่ 19 พ.ค. 2553 แต่โชคดีที่รอดมาได้ทุกครั้ง ทุกวันนี้จึงไม่รู้ว่าจะมีใครมาทำอะไรเมื่อไร เข้าใจว่าจะเป็นฝีมือของผู้ที่มีอำนาจในบ้านเมือง
นางนิดาวรรณ เพราะสุนทร อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า หากแกนนำ 7 นปช. ที่ได้รับการประกันตัวขึ้นเวทีปราศรัยในวันที่ 12 มี.ค. ถือว่าสุ่มเสี่ยงต่อการผิดเงื่อนไขที่ศาลกำหนด เพราะการปราศรัยต่อประชาชนจำนวนมากอาจเข้าข่ายเป็นการยั่วยุ ปลุกปั่น หรือปลุกระดม ทำให้บ้านเมืองไม่สงบสุข
จี้ตำรวจจับหากขัดเงื่อนไขศาล
“ตำรวจต้องทำหน้าที่ตามกฎหมายอย่างจริงจัง หากพบว่าแกนนำทำผิดเงื่อนไขศาลต้องจับกุมเอาตัวไปไว้ในเรือนจำตามเดิม เพื่อไม่ให้บ้านเมืองวุ่นวาย” อาจารย์มหาวิทยาลัยรังสิตกล่าวพร้อมประเมินว่า หลังแกนนำหลัก 7 คนได้รับการประกันตัว เชื่อว่าคนเสื้อแดงกำลังคิดใช้การชุมนุมเพื่อก่อความไม่สงบในบ้านเมืองอีกครั้ง ดังนั้น ตำรวจต้องทำหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากตำรวจไม่ทำหน้าที่ประชาชนที่เดือดร้อนจากการกระทำของคนเสื้อแดงสามารถฟ้องเอาผิดต่อตำรวจฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้
นางนิดาวรรณกล่าวอีกว่า รู้สึกเป็นห่วงกรณีที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) และ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ขึ้นเบิกความเป็นพยานให้ 7 แกนนำคนเสื้อแดงจนได้รับการประกันตัว เพราะเรื่องนี้อาจกลายเป็นบรรทัดฐานที่ไม่ถูกต้องที่ถูกนำไปใช้กับคดีอื่นๆ
http://www.dailyworldtoday.com/newsblank...ws_id=9798
ศาลให้ประกันอดีต ส.ข. แนวร่วมเสื้อแดงเพิ่มอีก 1 คน เผยแค่ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ถูกตั้งข้อหาก่อการร้ายแต่ต้องอยู่ในเรือนจำนานหลายเดือน “ณัฐวุฒิ” เปรยชีวิตไม่ปลอดภัย ไม่รู้ใครจะทำอะไรเมื่อไร ระบุช่วงก่อนสลายการชุมนุมวันที่ 19 พ.ค. 53 ถูกผู้มีอำนาจสั่งลอบสังหาร 3 ครั้งแต่ไม่สำเร็จ ยอมรับแกนนำที่ได้รับประกันตัวอยากลงสมัคร ส.ส. สังกัดพรรคเพื่อไทย ส่วนจะลงระบบเขตหรือบัญชีรายชื่อให้พรรคพิจารณาตามเหมาะสม นักวิชาการเตือนขึ้นเวทีปราศรัยระวังผิดเงื่อนไขศาลต้องกลับไปนอนในเรือนจำ
วันที่ 24 ก.พ. 2554 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก อนุญาตประกันตัวแนวร่วมคนเสื้อแดงเพิ่มอีก 1 คนคือ นายสมชาย ไพบูลย์ อดีตสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) บางบอน พรรคไทยรักไทย
ไม่มีข้อหาก่อการร้าย
นายสมชายถูกตั้งข้อหาร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยผู้กระทำความผิดคนใดคนหนึ่งมีอาวุธ เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก และฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548
แกนนำช่วยเบิกความ-ให้กำลังใจ
ก่อนศาลมีคำสั่งได้เปิดการไต่สวน โดยทนายจำเลยนำพยานเข้าเบิกความประกอบด้วย นายสมพงศ์ ประดิษฐ์วงศ์กุล ผู้อำนวยการส่วนควบคุมผู้ต้องขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน และตัวจำเลย ซึ่งการพิจารณาครั้งนี้มีนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาประธาน นปช. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. ที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว มาให้กำลังใจด้วย
อยู่ในเรือนจำความประพฤติดี
นายสมพงศ์เบิกความว่า ตลอดเวลาที่ถูกคุมขังจำเลยมีความประพฤติดี ไม่กระด้างกระเดื่อง เชื่อว่าหากได้ประกันตัวออกมาจะไม่ก่อปัญหาและไม่หลบหนี
นายวีระกานต์เบิกความว่า จำเลยมีหน้าที่ปราศรัยบนเวทีของ นปช. ตามแนวทางสันติวิธี และเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนให้เจรจากับฝ่ายรัฐบาลเพื่อหาทางยุติการชุมนุมด้วยความสงบเรียบร้อย ทั้งยังเป็นผู้เสนอความคิดให้สลายการชุมนุมไปก่อนที่จะถูกสลาย กระทั่งวันที่ 19 พ.ค. 2553 ที่มีการสลายการชุมนุมจำเลยจึงถูกควบคุมตัวตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ไม่ถูกตั้งข้อหาก่อการร้าย ซึ่งรัฐบาลได้ยกเลิกใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปแล้วตั้งแต่วันที่ 10 ธ.ค. 2553 หากจำเลยได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเชื่อว่าจะปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด
ถูกปล่อยตัวก่อนแจ้งข้อหาเพิ่ม
ขณะที่นายสมชายเบิกความว่า เข้าร่วมกับ นปช. เพราะต้องการเรียกร้องให้ประเทศมีประชาธิปไตยที่แท้จริง มีความยุติธรรมในสังคม และสนับสนุนให้เกิดความปรองดองในชาติ
“หลังถูกเข้าสลายการชุมนุมผมเดินทางกลับไปอยู่ที่บ้านจังหวัดนครศรีธรรมราช ถูกตำรวจเข้าจับกุมเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2553 ข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อครบกำหนดควบคุมตัวในวันที่ 22 มิ.ย. 2553 ศาลไม่อนุญาตขยายเวลาควบคุมตัวจึงได้รับการปล่อยตัว แต่วันที่ 25 มิ.ย. 2553 กลับถูกพนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เรียกตัวไปแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมและถูกคุมขังถึงปัจจุบัน” นายสมชายกล่าวและว่า หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจะไม่หลบหนีและยอมรับเงื่อนไขที่ศาลกำหนด ยืนยันว่ามีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมและพร้อมต่อสู้คดี
ศาลให้ปล่อยตัวค้ำประกัน 1 แสน
หลังการไต่สวนศาลมีคำสั่งว่า พฤติกรรมความผิดของคดีนี้เกี่ยวข้องกับคดีหมายเลขดำที่ อ.2542/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้องนายวีระกานต์กับพวก ซึ่งเป็นแกนนำและแนวร่วม นปช. รวม 19 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย ในคดีดังกล่าวศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวแกนนำหลายคน เนื่องจากการไต่สวนมีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่ง จึงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในคดีนี้เช่นกัน โดยตีหลักทรัพย์ 100,000 บาท และกำหนดเงื่อนไขประกันตัวห้ามไม่ให้จำเลยกระทำการอันเป็นการยั่วยุ ปลุกปั่น ปลุกระดม เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน อันจะทำให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักรหรือให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล
7 แกนนำ นปช. อยากลงสมัคร ส.ส.
นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำ นปช. เปิดเผยว่า 7 แกนนำ นปช. ที่ได้รับการประกันตัวพร้อมกันมีมติร่วมกันในเรือนจำว่าประสงค์จะลงสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เพราะต้องการได้เอกสิทธิ์คุ้มครองจากสภาตามกฎหมาย จะได้ไม่ถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาคดี แต่ขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรคจะพิจารณา
“9 เดือนที่อยู่ในเรือนจำมีความลำบากมาก ถูกผู้คุมที่เป็นเสื้อเหลืองจ้องจับผิด ความจริงพวกผมไม่ต้องการเล่นการเมือง แต่วันนี้ได้เสียสละจากการต่อสู้เพื่อพี่น้องมาตลอดจนได้รับผลกระทบหลายเรื่อง อันนี้ต้องเข้าใจด้วย” นายขวัญชัยกล่าวพร้อมยืนยันว่า วันที่ 12 มี.ค. จะไปขึ้นเวทีปราศรัยของ นปช. แน่นอน มั่นใจว่าไม่เป็นการละเมิดเงื่อนไขศาล เพราะศาลไม่ได้ห้ามวิจารณ์รัฐบาล
ให้พรรคพิจารณาตามเหมาะสม
ด้านนายณัฐวุฒิยอมรับว่า มีความคิดที่จะลงสมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ส่วนจะเป็นระบบเขตหรือระบบบัญชีรายชื่อก็สุดแท้แต่พรรคจะพิจารณาตามความเหมาะสม ส่วนแกนนำคนอื่นๆก็สนใจจะลงสมัครเหมือนกัน แต่คงไม่สามารถยืนยันอะไรชัดเจนได้
“เรื่องการต่อสู้จะทำร่วมกับคนเสื้อแดงต่อไปอย่างแน่นอน และจะสู้ไปจนกว่าจะเกิดประชาธิปไตยที่แท้จริงโดยอำนาจเป็นของประชาชน ไม่ว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไร จะเกิดอะไรกับชีวิตก็จะสู้ต่อแน่นอน”
“ณัฐวุฒิ” เปรยชีวิตไม่ปลอดภัย
นายณัฐวุฒิเปิดเผยด้วยว่า ช่วงที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ค่ายนเรศวร มีตำรวจเล่าให้ฟังว่ามีความพยายามลอบสังหาร 3 ครั้ง ก่อนถึงวันที่ 19 พ.ค. 2553 แต่โชคดีที่รอดมาได้ทุกครั้ง ทุกวันนี้จึงไม่รู้ว่าจะมีใครมาทำอะไรเมื่อไร เข้าใจว่าจะเป็นฝีมือของผู้ที่มีอำนาจในบ้านเมือง
นางนิดาวรรณ เพราะสุนทร อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า หากแกนนำ 7 นปช. ที่ได้รับการประกันตัวขึ้นเวทีปราศรัยในวันที่ 12 มี.ค. ถือว่าสุ่มเสี่ยงต่อการผิดเงื่อนไขที่ศาลกำหนด เพราะการปราศรัยต่อประชาชนจำนวนมากอาจเข้าข่ายเป็นการยั่วยุ ปลุกปั่น หรือปลุกระดม ทำให้บ้านเมืองไม่สงบสุข
จี้ตำรวจจับหากขัดเงื่อนไขศาล
“ตำรวจต้องทำหน้าที่ตามกฎหมายอย่างจริงจัง หากพบว่าแกนนำทำผิดเงื่อนไขศาลต้องจับกุมเอาตัวไปไว้ในเรือนจำตามเดิม เพื่อไม่ให้บ้านเมืองวุ่นวาย” อาจารย์มหาวิทยาลัยรังสิตกล่าวพร้อมประเมินว่า หลังแกนนำหลัก 7 คนได้รับการประกันตัว เชื่อว่าคนเสื้อแดงกำลังคิดใช้การชุมนุมเพื่อก่อความไม่สงบในบ้านเมืองอีกครั้ง ดังนั้น ตำรวจต้องทำหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากตำรวจไม่ทำหน้าที่ประชาชนที่เดือดร้อนจากการกระทำของคนเสื้อแดงสามารถฟ้องเอาผิดต่อตำรวจฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้
นางนิดาวรรณกล่าวอีกว่า รู้สึกเป็นห่วงกรณีที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) และ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ขึ้นเบิกความเป็นพยานให้ 7 แกนนำคนเสื้อแดงจนได้รับการประกันตัว เพราะเรื่องนี้อาจกลายเป็นบรรทัดฐานที่ไม่ถูกต้องที่ถูกนำไปใช้กับคดีอื่นๆ
http://www.dailyworldtoday.com/newsblank...ws_id=9798
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น