วันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554


รุกมาร์ค-ฟ้อง91ศพ ศาลผู้ดี! เพิ่มจาก-ศาลโลก

ตู่เตรียมหารือ'อัมสเตอร์ดัม' นปช.จวกธาริต-จู่ๆอาก้าโผล่! โวยบิดเบือนคดีฆ่านักข่าวยุ่น ณัฐวุฒิทำบุญ6ศพที่วัดปทุมวันนี้



ตรวจร่างกาย- นายขวัญชัย ไพรพนา พร้อมด้วยแกนนำเสื้อแดงเข้าตรวจร่างกายที่ร.พ.พระราม 9 หลังได้ประกันตัวออกจากเรือนจำ โดยจะนัดรวมตัวกันไปทำบุญ 6 ศพที่วัดปทุมวนารามในวันที่ 27 ก.พ. 
แกนนำเสื้อแดงรุดตรวจร่างกายที่ร.พ.หลังพ้นคุก 'ณัฐวุฒิ' ปวดหลัง 'หมอเหวง' เป็นไซนัส 'ขวัญชัย' ป่วยน้ำในหูไม่เท่ากัน ลั่นเดินหน้าช่วยเหลือแนวร่วมแดงตจว.ที่ยังถูกคุมขังอยู่ 'ธาริต' ยันนักข่าวยุ่นตายเพราะกระสุนอาก้า เพราะผลผ่าศพระบุชัด อ้างตามผลพิสูจน์ของอดีตผบช.พฐ. หนึ่งในคณะทำงาน แกนนำ นปช.อัดรัฐบาล เหตุการณ์จะครบปีอยู่แล้วทำไมหลักฐานยิงนักข่าวยุ่นเพิ่งโผล่ ย้ำกระสุนมาจากแนวตรงข้ามกลุ่มคนเสื้อแดง ดังนั้น ต้องหาตัวคนยิง ไม่ใช่มาโบ้ยว่าตายเพราะปืนชนิดใด 

แกนนำแดงรุดตรวจร่างกาย

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 ก.พ. ที่โรงพยาบาลพระราม 9 แกนนำ นปช.ที่ได้รับการประกันตัวชั่วคราว อาทิ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายขวัญชัย ไพรพนา น.พ.เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก และนายพิเชษฐ์ สุขจินดาทอง เดินทางมาตรวจร่างกายหลังถูกคุมขังมานาน 9 เดือน ทั้งนี้ นายนิสิต สินธุไพร และนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย แกนนำ นปช.อีก 2 คนไม่ได้เดินทางมาร่วมตรวจสุขภาพ เนื่องจากนายนิสิตติดภารกิจอยู่ที่ จ.ร้อยเอ็ด ส่วนนายวิภูแถลงติดอัดรายการของสถานีเอเชียอัพเดท

ขณะที่นางธิดา โตจิราการ รักษาการประ ธานนปช. เดินทางมาดูการตรวจร่างกายของแกนนำ นปช.ในวันนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม การตรวจเช็กร่างกายของแกนนำ นปช.ครั้งนี้สื่อมวลชนไม่ได้รับอนุญาตให้ทำข่าว โดยได้รับการชี้แจงว่า เนื่องจากทางโรงพยาบาลไม่ต้องการเป็นประเด็นข่าวทางการเมือง จากนั้นกลุ่มแกนนำ นปช. จึงเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านสุกี้เรือนเพชร

นายณัฐวุฒิเปิดเผยว่า จากการตรวจร่าง กายตนมีอาการปวดหลังเพราะหมอนรองกระดูกเคลื่อน แพทย์ได้นัดให้ทำกายภาพ บำบัด ส่วนน.พ.เหวงมีอาการไซนัส นาย ขวัญชัยมีอาการน้ำในหูไม่เท่ากัน และนายยศวริศมีอาการต้อลม ซึ่งจะต้องรับการรักษา ต่อไป

ยืนยันเดินหน้าชุมนุมต่อ

เวลา 12.15 น. ที่ร้านสุกี้เรือนเพชร นางธิดา โตจิราการ รักษาการประธานนปช. กล่าวถึงข่าวดีเอสไอระบุการเสียชีวิตของนายฮิโรยูกิ มูราโมโต้ ช่างภาพสำนักข่าวรอย เตอร์ชาวญี่ปุ่น เกิดจากอาวุธปืนสงคราม ชนิดอาก้า ซึ่งอาวุธดังกล่าวเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจไม่มีใช้เป็นอาวุธประจำกายว่า หลักฐานนั้นชัดเจนว่านักข่าวชาวญี่ปุ่นนั้นถูกยิงอยู่ในฝั่งของคนเสื้อแดง ดังนั้น กระสุนน่าจะมาจากฝั่งที่อยู่ตรงข้ามกับคนเสื้อแดง กรมสอบสวนคดีพิเศษพูดความจริงไม่หมด เพราะเรื่องรายละเอียดหลักฐานต่างๆ นั้นมีอยู่จำนวนมาก ดังนั้น อาวุธที่ใช้ยิงเป็นอะไรชนิดไหนขอให้ดีเอสไอชี้แจงมาถ้าคิดว่าไม่ใช่อาวุธของฝ่ายทหาร

นางธิดากล่าวว่า ส่วนการชุมนุมของคนเสื้อแดงนั้น แม้ว่าขณะนี้แกนนำ นปช.จะได้รับการประกันตัวแล้ว แต่ยังยืนยันว่าคนเสื้อแดงก็จะยังชุมนุมร่วมกันเดือนละ 2 ครั้งเหมือนเดิม เพราะการให้ประกัน 7 แกนนำ เหมือนเป็นรุ่งอรุณของความยุติธรรมเท่านั้น ตราบใดที่คนเสื้อแดงยังไม่ได้รับความยุติ ธรรมทั้งหมดก็ต้องเดินหน้าต่อสู้ต่อไป ทั้งนี้ ในวันที่ 6 มี.ค.จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตบริเวณแยกบ่อนไก่ที่มีคนเสียชีวิตที่นั่นเป็นจำนวนมากด้วย ซึ่งถ้าหากแกนนำ นปช.ทั้ง 7 คนสะดวกก็จะเดินทางไปร่วมงานด้วยอย่างแน่นอน

ด้านน.พ.เหวงกล่าวว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 10 เม.ย.53 จนถึงบัดนี้เวลาผ่านมาเกือบ 1 ปีแล้ว เหตุใดผลการพิสูจน์หลักฐานว่าเป็นการใช้อาวุธใดจึงเพิ่งมาเปิดเผยในช่วงนี้

'ณัฐวุฒิ'จวกดีเอสไอมั่ว

ด้านนายณัฐวุฒิกล่าวว่า กรณีการเสียชีวิตของนายฮิโรยูกิ มูราโมโต้ นั้น ตนขอตั้งข้อสังเกตว่า ขณะที่ช่างภาพของญี่ปุ่นเสียชีวิตนั้นอยู่ในฝั่งของผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง มีพยานให้การว่าเห็นแสงไฟมาจากปากกระบอกปืนที่น่าจะมาจากทางด้านหน้าแล้วก็เสียชีวิต ดังนั้น ประเด็นจึงอยู่ที่นักข่าวคนดังกล่าวถูกยิงโดยใคร ไม่ใช่ว่าถูกยิงด้วยอาวุธชนิดไหน แต่คนที่สามารถจัดสรรอาวุธทุกชนิดได้ในประเทศไทยนั้นก็คือหน่วยงานด้านความมั่นคง ดังนั้น เรื่องนี้ต้องไปหาคนที่ยิงมาให้ได้ ไม่ใช่มาพูดกันว่าถูกยิงจากอาวุธชนิดไหนกันแน่ ทั้งนี้ ในวันที่ 27 ก.พ.แกนนำ นปช.จะไปร่วมทำบุญเลี้ยงพระเพลเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้ชุมนุมที่เสียชีวิตที่วัดปทุมวนารามด้วย โดยจะเดินทางไปถึงประมาณ 09.00 น. ส่วนการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงในวันที่ 12 มี.ค. ที่อนุสาวรีย์ประชา ธิปไตยนั้น แกนนำจะไปร่วมชุมนุมและขึ้นเวทีปราศรัยด้วยอย่างแน่นอน สำหรับการจัดคอนเสิร์ตที่โบนันซ่านั้น หากรูปแบบกิจกรรมไม่ขัดต่อเงื่อนไขการให้ประกันตัวของศาลก็พร้อมที่จะไปร่วมชุมนุมด้วย

เตรียมช่วยที่เหลือในคุก

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีการยื่นประกันตัวคนเสื้อแดงที่ จ.อุดรธานี รวมทั้งคนที่ยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษ กทม.เพิ่มเติมอีกด้วย แต่เนื่องจากแต่ละคนถูกข้อหากันคนละอย่าง ดังนั้น เงื่อนไขต่างๆ รวมทั้งหลักทรัพย์ในการยื่นขอประกันจึงมีความแตกต่างกันไปด้วย ดังนั้น พวกตนจะสอบถามไปยังกรมคุ้มครองสิทธิ เพื่อจะได้ทราบว่ามีการยื่นประกันตัวคนเสื้อแดงในรายใดบ้าง เพื่อที่จะได้ไม่ทำงานซ้ำซ้อนกัน

สำหรับแกนนำ นปช.ที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศนั้น หลังจากเสร็จสิ้นการยื่นขอประกันตัวคนเสื้อแดงที่ถูกคุมขังอยู่ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะมีการประเมินสถานการณ์ร่วมกันอีกครั้งกับแกนนำที่หลบหนีอยู่ เพราะเชื่อว่าทุกคนพร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการยุติธรรม เพียงแต่ที่ผ่านมา 8-9 เดือนนั้นแกนนำที่อยู่ต่างประเทศมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ดังนั้น จะมีการประสานเพื่อให้กลับมาต่อสู้คดีอย่างแน่นอน ซึ่งทุกวันนี้ก็มีการติดต่อสื่อสารกันอยู่ผ่านเครือข่ายไซเบอร์ต่างๆ อยู่แล้ว

'ธาริต'ยันนักข่าวยุ่นโดนอาก้า

วันเดียวกัน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวถึงผลตรวจสอบการเสียชีวิตของนายฮิโรยูกิ มูราโมโต้ ช่วงภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ ว่า ยอมรับว่าผลการตรวจสอบการเสียชีวิตเกิดจากอาวุธอาก้าจริง และพล.ต.ท.อัมพร จารุจินดา อดีตผบช. สพฐ.ตร. ใช้เวลาวิเคราะห์ภาพถ่าย รวมทั้งผลชันสูตรจากแพทย์มาประกอบข้อมูล การวิเคราะห์ก่อนจะสรุปผลออกมาว่าเป็นอาก้า ดังนั้น จึงทำให้ข้อสงสัยเดิมที่ระบุว่าอาจจะเกิดจากเจ้าหน้าที่ก็เปลี่ยนแปลงไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเสียชีวิตของกลุ่ม นปช.ในวันเกิดเหตุเดียวกันพล.ต.ท.อัมพร สามารถระบุจากภาพถ่ายบาดแผลกระสุนปืนได้หรือไม่ นายธาริตกล่าวว่า ตนคงตอบไม่ได้ เพราะไม่แน่ใจว่าพล.ต.ท.อัมพรตรวจสอบกรณีของบุคคลใดบ้าง ต่อข้อถามว่า ผลจากตรวจสอบปรากฏออกมาแบบนี้เหมือนกับปกป้องเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ นายธาริต กล่าวว่า ตนไม่ได้ทำให้ผลออกมาเพื่อช่วยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ทำไปตามข้อเท็จจริง

อ้างผลผ่าศพชัด-ไม่ใช่เอ็ม 16

ด้านพล.ต.ท.อัมพร จารุจินดา อดีตผู้บัญ ชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน (สพฐ.ตร.) และผู้เชี่ยวชาญด้านบาดแผลกระสุนปืน กล่าวถึงข่าวข้อมูลการเสียชีวิตของนายฮิโรยูกิ มูราโมโต้ นักข่าวญี่ปุ่น ที่ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าเสียชีวิตจากการถูกอาวุธปืนสงครามชนิดอาก้า ว่า ตนยอมรับว่าเป็นคนพูด เพราะ ได้ตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวจริง ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีนี้ก็เนื่องจากว่ามีความเชี่ยว ชาญเกี่ยวกับอาวุธปืน และเชี่ยวชาญด้านบาดแผลกระสุนปืน ร่วมทั้งประสบการณ์จากการทำงาน หลังจากที่เกษียณอายุราชการไปแล้วก็เลยได้รับเชิญเข้าไปเป็นที่ปรึกษาของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ส่วนผลการตรวจสอบบาดแผลของนายฮิโรยูกิ ที่มีหลายฝ่ายกังวลว่าผลการตรวจนั้นมีความละเอียด จนถึงขั้นที่จะบอกได้เลยหรือว่าเสียชีวิตเพราะกระสุนอะไรนั้น ก็ขอบอกเลยว่าเรื่องนี้เป็นการตรวจสอบไปตามหลักวิชาการทุกอย่าง ทุกอย่างมีหลักฐานรองรับความเป็นไปได้ ซึ่งตามหลักฐานที่นำมาจากผลการชันสูตรพลิกศพของนายฮิโรยูกิ เช่น ขนาดของบาดแผล เส้นทางหรือว่าวิถีกระสุน ภายในร่างของผู้ตาย ก็เพียงพอที่จะทำให้ระบุได้ว่าผู้ตายนั้นไม่ได้เสียชีวิตด้วยกระสุนปืนชนิดเอ็ม 16 ที่เจ้าหน้าที่ทหารใช้อย่างแน่ นอน แต่รายละเอียดต่างๆ มากไปกว่านี้ตนไม่อยากจะพูดมาก เพราะมันอาจส่งผลต่อรูปคดีได้

'เทือก'มั่นใจแจงได้ทุกเรื่อง

เวลา 09.00 น. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงฝ่ายค้านจะนำข้อมูลเหตุการณ์สถานการณ์การชุมนุมทาง การเมืองตั้งแต่เดือนมี.ค.-พ.ค.2553 มาอภิ ปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ฝ่ายค้านพยายามทำให้เห็นว่ารัฐบาลผิดอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นโอกาสที่ดีจะได้ชี้แจงต่อสภา และประชาชน ไม่ได้หนักใจเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ภายใต้สายตาของสื่อมวลชนทั้งประเทศ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงน่าวิตก

เมื่อถามถึงฝ่ายค้านระบุมีหลักฐานใหม่เกี่ยวกับคนเผาเซ็นทรัลเวิลด์ นายสุเทพ กล่าวว่า ขอให้รอดูว่าเป็นข้อมูลอะไร แต่มั่นใจว่าชี้แจงได้ทุกเรื่อง รวมทั้งเรื่องงบประมาณของศอฉ. เมื่อถามว่า มีการระบุข้อมูลจากดีเอสไอว่าช่างภาพรอยเตอร์ชาวญี่ปุ่นถูกยิงด้วยอาวุธปืนอาก้า ซึ่งไม่ใช่อาวุธที่ฝ่ายทหารใช้ นายสุเทพกล่าวว่า เรื่องการสอบสวนเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญการที่จะสรุปผล แต่ตนคงไม่เข้าไปในรายละเอียด และยังไม่ได้รับรายงานใดๆ

โฆษกปชป.โต้แดงใส่ร้าย'มาร์ค'

ด้านน.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ติดตามการอภิปรายนโยบายพื้นฐานของรัฐในสัปดาห์ที่ผ่านมา และเห็นว่าภาระสำคัญในการทำงานของพรรคเพื่อไทยยังสอดรับกับการชุมนุมของกลุ่มนปช. โดยเฉพาะการใส่ร้ายข้อมูลส่วนตัวของนายกฯ คือเรื่องสัญ ชาติ มากกว่าการทำงาน ซึ่งตามข้อเท็จจริงนายกฯ ดำเนินการมาตลอด 30 ปี อยู่บนพื้นฐานของความชัดเจน ทั้งพฤตินัยและนิตินัย ว่าไม่เคยใช้สิทธิ์ที่เป็นพลเมืองอังกฤษตามที่กล่าวหา และไม่เคยนำข้อเท็จจริงจากใบสูติ บัตรนั้นมากระทำการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายใดๆ ทั้งปวง เพราะใครเกิดที่ไหนสูติบัตรก็จะสะท้อนการกำเนิดที่นั่น

"สิ่งที่ยืนยันการใช้สิทธิ์ในฐานะสัญชาติไทยของนายกฯ คือการเสียค่าเล่าเรียนที่อังกฤษ และการขอวีซ่าเดินทางเข้าสหราชอาณาจักรทุกครั้ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ยืนยันว่าแม้นายอภิสิทธิ์จะขอใช้สิทธิ์ในฐานะพลเมืองอังกฤษก็ไม่สามารถใช้ได้ เพราะเคยใช้สิทธิ์พลเมืองสัญชาติไทยมาตลอด ประเด็นเรื่องสละสัญชาติจึงไม่เป็นประเด็น ไม่มีสัญชาติใดที่ต้องสละ และไม่มีอะไรต้องดำเนินการเพิ่มเติมจากที่ทำมาตลอด 30 ปี เรื่องนี้ควรได้ข้อยุติแล้ว" น.พ.บุรณัชย์กล่าว

ยำ'ทักษิณ'-พาดพิงเบื้องสูง

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า หากฝ่ายค้านและกลุ่ม นปช.ต้องการสร้างความเชื่อเพื่อเป็นเงื่อนไขยื่นเรื่องการดูแลรักษาความสงบระหว่างการชุมนุมต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าไม่ชอบตามข้อกำหนด เป็นความเท็จ ใส่ร้ายเรื่องสัญชาติ โดยหลักกฎหมายระหว่างประเทศกรณีเดียวที่จะพิจารณาเหตุการณ์การชุมนุมที่ผ่านมา เป็นเรื่องของสถาบันตุลาการในประเทศนั้นๆ ไม่สามารถทำการได้ ล่มสลายลง ซึ่งไม่ใช่กรณีของไทย เพราะสถาบันตุลาการยังเป็นระบบประชาธิปไตยที่มีอิสระ ยึดถือการวินิจฉัยกฎหมายมาตลอด แต่นี่คือเหตุผลที่ฝ่ายค้านและ นปช.พุ่งเป้าการทำลายความน่าเชื่อถือของสถาบันตุลาการ สอดรับกับการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ที่พยายามชี้ให้เห็น โดยในเอกสารที่นายอัมสเตอร์ดัมใช้ประกอบการพยายามยื่นต่อศาลอาญาระหว่างประเทศนั้น คือการอ้างพาดพิงถึงสถาบันสูงสุดของประเทศโดยไม่บังควร ว่ามีส่วนกำหนดการวินิจฉัยของศาล ซึ่งสร้างความเข้าใจผิดให้กับสถาบันสูงสุดของไทย และเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้การเคลื่อนไหวในต่างประเทศต้องชี้แจง หากไม่หยุดยั้งการกระทำดังกล่าว

โวปล่อยเสื้อแดง-สมานฉันท์

น.พ.บุรณัชย์กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่ม นปช.หลังจากมีการปล่อยตัวแกนนำ ว่า พรรคยินดีที่รัฐบาลใช้ความยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ที่รัฐบาลใช้สร้างความปรองดองตามความเห็นของคณะกรรมการอิสระชุดนายคณิต ณ นคร นั้นมีส่วนให้แกนนำถูกปล่อยตัว และช่วยเหลือประกันตัว โดยกองทุนของกระทรวงยุติธรรมและรัฐบาลนั้น เห็นว่าขณะนี้แนวทางของกลุ่ม นปช.เริ่มปรากฏชัด คือผู้ที่จะกลับมาเข้าร่วมเคลื่อน ไหวในสภากับกลุ่มที่ต้องการให้ความขัดแย้งในบ้านเมืองดำเนินต่อไป ซึ่งแนวทางของรัฐบาลเองและกระบวนการยุติธรรมนั้นจะแยกผู้เคลื่อนไหวทั้งสองกลุ่มออกจากกัน ยืนยันว่าหากผู้ชุมนุมและผู้สนับสนุน แกน นำนั้นไม่เกี่ยวข้องกับความรุนแรง ก็จะไม่ต้องถูกดำเนินคดี ในฐานะที่เป็นผู้ก่อการร้าย เฉพาะผู้ชุมนุมทางการเมืองที่เกี่ยวข้องโดย ตรงกับความสูญเสียความรุนแรงที่จะต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย

ปรองดองได้-แต่ต้องตามกติกา

แดงภูพาน- กลุ่มคนเสื้อแดงจังหวัดสกลนคร จัดเวที "รวมพลคนภูพาน" ต้านเผด็จการ นปช.สกลนคร-ชมรมคนรักสกลนคร ที่สนามหญ้าใกล้สี่แยกถนนคูเมือง เยื้องห้างบิ๊กชี จ.สกลนคร มีผู้มาร่วมงานนับหมื่น เมื่อวันที่ 26 ก.พ.


น.พ.บุรณัชย์กล่าวว่า ส่วนการชุมนุมทาง การเมืองขณะนี้ถึงเวลาที่แกนนำและผู้สนับ สนุนในต่างจังหวัดที่ไม่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงได้รับอิสรภาพ ประมาณ 80 คน ตามจังหวัดต่างๆ เป็นการส่งสัญญาณที่ดีในการปรองดอง แต่แกนนำที่ได้รับการปล่อยตัวแล้วควรบริสุทธิ์ใจโดยการร่วมมือนำแกนนำคนอื่นๆ เช่น นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นายสุพร อัตถาวงศ์ เข้าสู่กระบวนการยุติ ธรรม และตัดขาดความสัมพันธ์กับผู้ที่สร้างความรุนแรง ตั้งกองกำลัง ผู้ที่เคลื่อนไหวใต้ดิน ทั้งผ่านทางสิ่งพิมพ์และเว็บไซต์โดยการพาดพิงสถาบันที่อยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมืองทุกส่วน

น.พ.บุรณัชย์กล่าวถึงพ.ต.ท.ทักษิณให้ สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนญี่ปุ่นระบุการเลือกตั้งจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้หากตัวเองไม่ได้รับการอภัยโทษ ว่า เป็นการนำประโยชน์ของตัวเองมาสร้างเป็นเงื่อนไขสร้างความ ปรองดองในประเทศ โดยมีเหตุผลไม่ยอมอยู่ภายใต้กฎหมายของไทย ซึ่งรัฐบาลและระบบตุลาการคงไม่สามารถสนองต่อการแก้ไขปัญหาส่วนบุคคลได้ จนกระทั่งพ.ต.ท. ทักษิณยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเหมือนแกนนำ นปช.คนอื่นๆ ที่ไม่ได้หลบหนีลี้ภัยออกนอกประเทศ หรือใช้สัญชาติต่างชาติเพื่อเลี่ยงการถูกบังคับใช้กฎหมายในประเทศเช่นเดียวกับพ.ต.ท.ทักษิณ การที่นายนพดล ปัทมะ ออกมาระบุว่าพ.ต.ท.ทักษิณใช้สัญ ชาติ และพาสปอร์ตมอนเตรเนโกรด้วย ความจำเป็นนั้นยืนยันว่าเป็นการเลือกถือสัญชาติ และพาสปอร์ตอื่นเพื่อจะไม่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายของไทย

น.พ.บุรณัชย์กล่าวถึงนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยระบุที่นายอภิสิทธิ์ดำเนินการในลักษณะดังกล่าวเพื่อเตรียมตัว ลี้ภัยว่า ขอยืนยันว่านายอภิสิทธิ์ไม่มีพฤติ กรรมเหมือนกับพ.ต.ท.ทักษิณ ที่หนีความรับผิดชอบทางกฎหมาย ไม่ว่าจะเกิดกรณีใดๆ รัฐบาลชุดนี้ยึดหลักว่าทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายโดยเท่าเทียมมาโดยตลอด ฝากนายพร้อมพงศ์ให้แยกแยะพฤติกรรมของคนอื่นออกจากพฤติกรรมของนายตัวเองด้วย

เทพไทย้ำมาร์คมีสิทธิทางการเมือง

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการถือสัญชาติของนายกฯ ว่า นายกฯ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงในสภาผู้แทนราษฎรเรียบร้อยแล้ว ปัญหาต่างๆ น่าจะจบสิ้นเพราะไม่เกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งทางการเมืองของนายกฯ ไม่ทราบว่าผู้ที่พยายามขยายจุดนี้หวังผลอะไร เพราะนายกฯ ไม่คิดหลบหนีความจริงตามที่ถูกกล่าวหา และนายกฯ ไม่เคยใช้สัญชาติอังกฤษมาก่อน ดังนั้น การจะสละสัญชาติหรือไม่ไม่ใช่สาระสำคัญ ถ้าศาลอาญาระหว่าง ประเทศรับฟ้องในเรื่องนี้ นายกฯ ก็พร้อมจะต่อสู้คดีเต็มที่ในข้อเท็จจริงที่ปรากฏ

นายเทพไทกล่าวว่า ส่วนที่โฆษกพรรคเพื่อไทยระบุที่นายอภิสิทธิ์ไม่สละสัญชาติอังกฤษเพราะต้องการลี้ภัยหลังจากหมดวาระนั้น ได้สอบถามนายกฯ แล้วไม่เคยมีแนวความคิดและไม่มีเหตุผลใดที่ต้องลี้ภัยเพราะไม่ได้ทำความผิด เชื่อว่าเหตุที่ยกประเด็นนี้ขึ้นมาเพื่อหวังขยายผลอีกว่านายกฯ เตรียมหลบหนีคดีของศาลอาญาระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม กกต.และหน่วยงานต่างๆ ได้ออกมายืนยันแล้วว่า นายกฯ มีสิทธิและมีคุณสมบัติพร้อมดำรงตำแหน่งทางการเมือง ดังนั้น ข้ออ้างเรื่องความสับสนในสัญชาติของนายกฯ จะไม่เป็นความจริง อยากให้คนในพรรคเพื่อไทยไปถามนายใหญ่ว่าที่ถืออยู่ 3-4 สัญชาตินั้น สร้างความสับสนให้คนไทยหรือไม่

'มาร์ค'ยันเรื่องสัญชาติไร้ปัญหา

เวลา 15.15 น. ที่อาคารจามจุรีสแควร์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. ขยายประเด็นเรื่องสองสัญชาติของนายกฯ เพื่อนำไปฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ ว่า ไม่มีปัญหา เขาก็ฟ้องไปแล้ว ไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งนั้น เพราะตนเรียนแล้วว่าข้อเท็จจริงคืออะไร ส่วนข้อกฎหมายจะเป็นอย่างไรก็ว่าไปตามกฎหมาย แต่ไม่มีปัญหาเรื่องสัญชาติไทยของตนอยู่แล้ว ส่วนตนเกิดที่ไหนและมันเป็นเรื่องสิทธิตามกฎหมายของต่างประเทศ ตนเป็นคนไทยคงไม่ต้องไปไล่ตามดูว่ากฎหมายของประเทศนั้นบอกว่าตนต้องทำอะไร และเจตนาก็ชัดเจนตั้งแต่ตอนเรียนหนังสือ ตั้งแต่เดินทางเข้าไปอังกฤษทุกครั้งตนต้องไปขอวีซ่า เรื่องมันก็มีเท่านั้น ส่วนเรื่องที่ไปฟ้องศาลโลกถึงอย่างไรเขาก็ไปฟ้องอยู่แล้ว ส่วนศาลจะรับหรือไม่เป็นเรื่องของศาลโลก

เมื่อถามว่า คิดว่ากลุ่ม นปช.จะนำเรื่องนี้ขยายผลเพื่อประโยชน์ต่อการชุมนุมของคนเสื้อแดงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงไม่ เรื่องนี้มีอยู่แค่ว่าเขาต้องการหาช่องลากเรื่องนี้ขึ้นไปศาลโลกเท่านั้นเอง ต่อข้อถามว่า กลุ่ม นปช.ได้นำประเด็น 91 ศพกลับมาพูดอีกในช่วงนี้ นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ในทางต่างประเทศเขาเดินไปของเขาอยู่แล้ว เพราะนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม รับจ้างมาทำงานนี้เขาก็ต้องทำงานของเขาไป และเขาก็ส่งไปให้เป็นเรื่องของศาลโลก ดังนั้น เป็นเรื่องของศาล โลกต้องพิจารณาต่อไป

ลั่นไม่ฟ้องถ้าไม่มีใครพูดหมิ่น

เมื่อถามว่า ในแง่กฎหมายถือว่ามีผลกระ ทบต่อตัวนายอภิสิทธิ์หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่เกี่ยว เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชี้แจงชัดเจนอยู่แล้ว เมื่อถามว่า จะปกป้องตัวเองด้วยการฟ้องร้องหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไร ขึ้นอยู่กับว่าเขาพูดอะไร

เมื่อถามถึงกรณีแกนนำ นปช.พยายามเดินสายที่จะเรียกร้องให้ปล่อยตัวแนวร่วมที่ถูกจำคุกอยู่ในต่างจังหวัด นายกฯ กล่าว ว่า ความจริงรัฐบาลทำเรื่องนี้อยู่แล้วในการช่วยเหลือทางกฎหมายในกรณีของผู้ที่ไม่มีโอกาส ซึ่งเข้าใจว่าที่ผ่านมามีการให้ประกันตัวไปแล้ว 40-50 คน ถือเป็นจำนวนมากพอสมควรและเป็นดุลพินิจของศาล และเป็นแนวทางที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ แต่ถ้ามีประ เด็นใดที่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องไหนรัฐบาลก็ยินดีที่จะทำให้ทุกกลุ่ม ถือเป็นหน้าที่ของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และเป็นหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งในความเป็นจริงได้ปล่อยตัวจำนวนมากแล้ว แต่คนสนใจเฉพาะแกนนำเท่านั้น

แดงปากน้ำไล่'มาร์ค'ตรวจรง.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางมาตรวจเยี่ยมโรงกลั่นน้ำมันปาล์มมรกต ถ.ปู่เจ้าสมิงพราย จ.สมุทรปราการ ปรากฏว่ากลุ่มเสื้อแดงประมาณ 30-35 คน มารวมตัวชุมนุมขับไล่นายกฯ บริเวณริมถนนปู่เจ้าสมิง พราย ทางแยกเข้าโรงกลั่นดังกล่าว โดยสวมเสื้อแดง พร้อมชูรองเท้า ตีนตบ และหัวควายที่ทำจากกระดาษ โดยเมื่อขบวนรถของนายกฯ ออกมาจากโรงงานกลุ่มคนเสื้อแดงได้พากันตะโกนขับไล่ พร้อมปาขวดน้ำใส่ขบวนรถนายกฯ ผ่านเข้า-ออก ท่ามกลางกำลังตำรวจนับร้อยที่ยืนเรียงแถวหน้ากระดานคอยอารักขา

'ตู่'เหน็บดีเอสไอระวังบาป

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่าดีเอสไอสรุปว่าหัวกระสุนที่สังหารนายฮิโรยูกิ มูราโมโต้ ช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ เป็นหัวกระสุนปืน อาก้า ซึ่งไม่มีใช้ในเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ว่า อย่างที่ตนเคยแถลงไปแล้วก่อนจะมีคำสั่งศาลห้ามไม่ให้พูดเรื่องนี้ว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร ทั้งพยานบุคคลที่ให้การตรงกันตามสำนวนการสอบสวนของดีเอสไอ การสรุปคดี ภาพจากกล้องช่างภาพญี่ปุ่น ทุกอย่างชี้ ให้เห็นตรงกันว่าเป็นการยิงมาจากไหน หากอยากฟังข้อเท็จจริงขอให้รอฟังในการอภิ ปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งตนจะนำสำนวนการสอบสวนของดีเอสไอมาเปิดเผยในสภาทั้งหมด

"เวลาผ่านมาเกือบปีแล้วดีเอสไอมาเบี่ยงเบนประเด็นอะไรตอนนี้ คิดอย่างอื่นไม่ได้ว่าต้องการลดความน่าเชื่อถือในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนเรื่องช่างภาพญี่ปุ่นดีเอสไอคิดว่าเขาไม่รู้เรื่องหรืออย่างไร เพราะก่อนหน้านี้คนเสื้อแดงเคยเอาสำนวนสอบสวนของดีเอสไอไปมอบให้แล้ว ทางทูตญี่ปุ่นเองก็เอาสำนวนนี้ไปสอบถามกับสตช. ทาง สตช.ก็ยืนยันว่าตรงกับที่ได้รับจากดีเอสไอ แล้วยังคิดจะทำอะไรอีก ขอให้คำนึงถึงบาปบุญคุณโทษไว้บ้าง" นายจตุพรกล่าว

เล็งฟ้องศาลอังกฤษ

นายจตุพรกล่าวถึงกรณีที่นายกฯ ยอมรับว่าไม่ได้สละสัญชาติอังกฤษ ว่า อีก 1-2 วันจะได้ร่วมหารือกับนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความของนปช. เพื่อหารือในประเด็นข้อกฎหมาย เนื่องจากนายโรเบิร์ตให้ความเห็นว่าเมื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ไม่ได้สละสัญชาติอังกฤษ เท่ากับว่ามีสถานะเป็นบุคคลสัญชาติอังกฤษโดยอัตโนมัติ ดังนั้น นอกจากจะยื่นฟ้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศได้แล้ว ก็น่าที่จะยื่นฟ้องต่อศาลประ เทศอังกฤษ ที่ถือว่านายอภิสิทธิ์เป็นพลเมืองอยู่ในข้อหาเดียวกันกับที่ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศได้ แต่รายละเอียดคงต้องรอหารือกับนายโรเบิร์ตอีกครั้ง

แดงสกลฯจัดปราศรัยใหญ่

เวลา 18.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สกลนคร ว่า มีกลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัดสกนคร จัดเวที "รวมพลคนภูพาน" ต้าน เผด็จการ นปช.สกลนคร-ชมรมคนรักสกล นคร ที่บริเวณสนามหญ้าใกล้สี่แยกถนนคูเมือง เยื้องห้างบิ๊กชีสกลนคร โดยมีประชา ชนและคนเสื้อแดงเดินทางมาร่วมงานนับหมื่นคน ทำให้บริเวณสนามหญ้ากว่า 4 ไร่ เต็มไปด้วยคนเสื้อแดง

โดยมีแกนนำคนสำคัญ อาทิ นายพราหมณ์ ศักดิ์ระพี แกนนำเสื้อแดงสกลนครและแกนนำจากอำเภอต่างๆ จำนวน 18 อำเภอ ในจัง หวัดสกลนคร ผลัดกันขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาล โดยในช่วงค่ำจะมีแกนนำอย่าง นาย จตุพร พรหมพันธุ์ และนายแพทย์เหวง โตจิราการ และส.ส.พรรคเพื่อไทยขึ้นเวที นอกจากนี้ ยังมีการเปิดให้มีการจัดทำบัตรสมาชิก นปช.รุ่นใหม่ด้วย พร้อมกับนำสินค้าคนเสื้อแดงมาจำหน่ายให้กับผู้ร่วมงาน และมีการนำโรงทานอาหารมาบริการฟรี

เผยวีระ-ราตรีเซ็นขออภัยโทษ

เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ที่สถาบันพระปกเกล้า ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชาว่า ในทางนโยบายชัดคือจะเน้นการค้าการลงทุน เพราะมูลค่าการค้าการลงทุนไทย-กัมพูชา ปีที่แล้วโตถึง 40% ในการหารือกับสมเด็จฮุนเซน นายกฯกัมพูชาทุกครั้ง ก็พูดถึงแต่เรื่องการค้า ยืนยันว่าปัญหาเกิดขึ้นภายหลังกัมพูชาอยากขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งต้องเสนอแผนบริหารจัดการพื้นที่ตามมา ที่จะกลายเป็นการเอาดินแดนไปโดยปริยายเหมือนคำตัดสินของศาลโลกเมื่อปี 2505 ที่ตัดสินให้กัมพูชาชนะคดีปราสาทพระวิหาร โดยอ้างว่าฝ่ายไทยไม่คัดค้านแผนที่

"ก่อนจะมีมรดกโลกคนไปเที่ยวปราสาทพระวิหารกันได้ ไม่ต้องเถียงกันเลยว่าอะไรอยู่ตรงไหน แค่แบ่งผลประโยชน์กันไป ทางขึ้นไทยเก็บค่าเข้า พอจะเข้าปราสาท กัมพูชาก็เก็บอีกต่อ แต่หลังการขึ้นมรดกโลกในปี 2551 มีการส่งกำลังทหารเข้าไปยึด ที่ต้องปิดด่าน เพราะในพื้นที่ยังมีกำลังทหารอยู่ ถ้าจะให้เปิดด่านเวลานี้ให้นักท่องเที่ยวขึ้นก็ทำได้ แต่จะมีบางกลุ่มไม่ได้ไปท่องเที่ยว จะมีความเสี่ยงทำให้ปัญหาลุกลาม ตนจึงบอกกับยูเอ็นและยูเนสโกตั้งแต่ครึ่งปีที่แล้วว่าให้หยุด เพราะหากกัมพูชาจะมาเคลียร์พื้นที่ตรงนี้ ผมก็ยอมไม่ได้ แต่แนวโน้มน่าจะดีขึ้น เพราะยูเนสโกจะเลื่อนแผนบริหารจัดการพื้นที่ ให้เราไปคุยกับกัมพูชาก่อน หลักการคือต้องมีสิทธิบริหารร่วมกัน" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่ระบุยูเนสโก เตรียมเลื่อนแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารที่เสนอโดยกัมพูชาในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่บาห์เรน เดือนมิ.ย.นี้ว่า ยูเนสโกคงไปคุยกับกัมพูชา แต่เขาคงจะเข้าใจแล้วว่าการเดินหน้าต่อไปจะทำให้เกิดปัญหา ตนคิดว่ายูเนสโกคงได้คุยกับทางกัมพูชาภายใน 1-2 เดือนนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความตึงเครียดมากขึ้น

ส่วนกรณีนายวีระ และน.ส.ราตรีที่ถูกพิพากษาจำคุกในศาลกัมพูชาทำเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเห็นจากข่าวเท่านั้นว่านายณฐพร โตประยูร ทนายความของนายวีระและน.ส.ราตรีแถลง แต่เรื่องทั้งหมด ต้องให้เจ้าตัวเท่านั้นเป็นคนตัดสินใจ รัฐบาลแค่อำนวยความสะดวก ติดต่อขอเอกสารในการต่อสู้คดี และแจ้งให้ทราบถึงการประสานงานระหว่างฝ่ายบริหาร 2 ประเทศ แต่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายต้องเป็นเรื่องของครอบครัวและเจ้าตัว โดยมีทนายความที่ได้รับมอบอำนาจเป็นตัวแทน

เมื่อถามว่าสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาระบุว่าบุคคลทั้งสองจะต้องได้รับโทษ 2 ใน 3 ก่อนถึงจะขอพระราชทานอภัยโทษได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตอบยากเพราะในอดีต เราก็เคยเห็นคดีที่ขออภัยโทษได้ อย่างกรณีนายศิวรักษ์ (ชุติพงษ์ วิศวกรไทยที่ถูกจับในข้อหาจารกรรมตารางการบินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) มาแล้ว โดยไม่ต้องรับโทษ 2 ใน 3

ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงถึงกรณีที่นายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ที่ลงนามในหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษต่อกษัตริย์กัมพูชาว่าได้รับการแจ้งว่าทนายแจ้งว่าวีระลงนามในเอกสาร แต่รอให้ทางครอบครัวและทนายยืนยันมาก่อน จึงจะเริ่มดำเนินการต่อไป ซึ่งไม่สามารถประเมินได้ว่าจะได้รับการปล่อยตัวเมื่อไหร่เพราะต้องเจรจากับรัฐบาลกัมพูชาเสียก่อน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น