ศาลถอนประกันตัว “จตุพร-นิสิต” ถูกนำตัวเข้าเรือนจำทันที ทนายยื่นหลักทรัพย์ 2 ล้าน ขอประกันตัวใหม่ แต่ศาลให้ยกคำร้อง ให้เหตุผลมีพฤติการณ์ก่อเหตุอันตรายร้ายแรง ระบุอาจต้องนอนคุกยาวเพราะมาตรา 196 ห้ามอุทธรณ์คำสั่งที่มีระหว่างพิจารณาคดีทันที ต้องรอตัดสินคดีเสร็จสิ้นก่อน เตรียมประชุมแกนนำและทีมทนายหาทางช่วย “ก่อแก้ว-วิภูแถลง” เตือนคนเสื้อแดงแม้ไม่พอใจก็ขอให้อยู่ในความสงบ หากก่อความวุ่นวายจะเข้าทางกลุ่มคนที่ต้องการสร้างความปั่นป่วนเพื่อล้มเลือกตั้ง “ณัฐวุฒิ” ยืนยันไม่ล้มงานรำลึก 1 ปีราชประสงค์ ไม่ต้องปรับแนวทางการปราศรัย “ธาริต” ถ่อมตัวไม่ถือเป็นความสำเร็จเพราะทำตามหน้าที่ เฝ้าจับตาแกนนำที่เหลือหากล้ำเส้นยื่นถอนประกันอีก
วันที่ 12 พ.ค. 2554 ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 704 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาเรื่องที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 ยื่นให้พิจารณาถอนประกันแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน 9 ราย ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย ประกอบด้วย นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นพ.เหวง โตจิราการ, นายก่อแก้ว พิกุลทอง, นายขวัญชัย สาราคำ หรือไพรพนา, นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก, นายนิสิต สินธุไพร และนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย กรณีปราศรัยในงานรำลึก 1 ปีการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมามีเนื้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง กระทบต่อความมั่นคง ซึ่งผิดเงื่อนไขประกันตัวที่ศาลกำหนด
สั่งถอนประกันแค่ “จตุพร-นิสิต”
ศาลระบุว่า หลังจากพิเคราะห์พยานหลักฐานจากการไต่สวนของ 2 ฝ่ายแล้วเห็นว่า กรณีของนายวีระ นายณัฐวุฒิ นพ.เหวง นายก่อแก้ว นายขวัญชัย นายยศวริศ และนายวิภูแถลง ไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะชี้ชัดได้ว่ากระทำผิดเงื่อนไขการประกันตัว หรือมีพฤติการณ์การกระทำอื่นใดที่จะเป็นเหตุให้ศาลเพิกถอนสัญญาประกัน มีเพียงนายจตุพรและนายนิสิตที่พิเคราะห์พยานหลักฐานโดยละเอียดแล้วเห็นว่าพฤติการณ์การกระทำตลอดจนคำพูดของทั้ง 2 คนมีลักษณะส่อไปในทางที่อาจทำให้ประชาชนทั่วไปสับสนในข้อเท็จจริงจนถึงขั้นก่อความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ซึ่งนับว่าเป็นการก่อเหตุอันตรายและเป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักรที่เป็นเหตุที่ศาลจะเพิกถอนสัญญาประกันได้ จึงมีคำสั่งเพิกถอนสัญญาประกันเฉพาะนายจตุพรและนายนิสิต
นำตัวเข้าเรือนจำทันที
ทั้งนี้ หลังจากศาลอ่านคำสั่งเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวนายจตุพรและนายนิสิตไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯทันที ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และคนเสื้อแดงที่มาให้กำลังใจแกนนำจำนวนมาก
นายจตุพรเปิดเผยก่อนถูกนำตัวไปเรือนจำว่า พร้อมน้อมรับคำสั่งศาล และจะใช้ชีวิตอย่างปรกติโดยปราศจากอิสรภาพ อย่างไรก็ตาม จะให้ทีมทนายยื่นอุทธรณ์คำสั่งต่อไป ส่วนการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงก็มีต่อไปตามปรกติ เพราะมวลชนและแกนนำคนอื่นยังอยู่ สำหรับการลงสมัคร ส.ส. ไม่น่ามีปัญหาอะไร ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ในพรรคจะพิจารณา
ยื่นหลักทรัพย์ 2 ล้านประกันตัวใหม่
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ นปช. ได้ยื่นหลักทรัพย์รายละ 1 ล้านบาท ขอประกันตัวนายจตุพรและนายนิสิตทันที โดยระบุในคำร้องว่าจำเลยทั้งสองน้อมรับคำสั่งศาลและพร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ อีกทั้งจำเลยทั้งสองเป็น ส.ส. และอดีต ส.ส. หลายสมัย ขณะนี้กำลังจะมีการจัดการเลือกตั้ง จึงขอโอกาสในการปล่อยตัวชั่วคราวอีกครั้ง
ไม่ได้ประกันส่อต้องนอนคุกยาว
นายวิญญัติชี้แจงว่า ที่ต้องใช้วิธียื่นขอประกันตัวใหม่แทนการยื่นอุทธรณ์คำสั่งถอนประกันเพราะตามมาตรา 196 กำหนดไว้ว่า การยื่นอุทธรณ์คำสั่งที่มีขึ้นระหว่างการพิจารณาคดีนั้นยังทำไม่ได้ทันที ต้องรอให้คดีมีคำพิพากษาก่อน หากศาลไม่ให้ประกันตัวใหม่ก็ต้องปรึกษากับทีมทนายและนายจตุพรกับนายนิสิตว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ศาลสั่งยกคำร้องประกันตัว
หลังจากศาลพิจารณาคำร้องประกันตัวนายจตุพรและนายนิสิตที่ทนายความยื่นแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง โดยให้เหตุผลว่า เมื่อพิจารณาจากพฤติการณ์ของทั้ง 2 คนแล้วเห็นว่าหากให้ปล่อยตัวชั่วคราวอาจก่อเหตุอันตรายประการอื่น จึงให้ยกคำร้อง
ขณะที่นายณัฐวุฒิยืนยันว่า การชุมนุมครบรอบ 1 ปีเหตุการณ์ที่ราชประสงค์วันที่ 19 พ.ค. นี้จะมีตามปรกติ แกนนำที่เหลือจะไปร่วมงานแน่นอน และไม่จำเป็นต้องปรับรูปแบบการปราศรัย
หลักฐานดีเอสไอไม่เกี่ยวเงื่อนไขประกัน
นายก่อแก้วกล่าวหลังเข้าเยี่ยมนายจตุพรและนายนิสิตที่เรือนจำว่า เงื่อนไขประกันตัวของนายจตุพรคือห้ามพูดเกี่ยวกับเรื่องคดีความ ซึ่งพยานหลักฐานที่ดีเอสไอนำไปยื่นถอนประกันเป็นเรื่องอื่น ไม่เกี่ยวกับเงื่อนไขประกันตัว จึงแปลกใจเป็นอย่างมากที่นายจตุพรถูกถอนประกันตัว
เสื้อแดงไม่แฮปปี้แต่ต้องอยู่ในความสงบ
“คนเสื้อแดงไม่แฮปปี้กับคำสั่งศาลแน่นอน แต่ขอให้อยู่ในความสงบ ทีมทนายและแกนนำขอเวลารวบรวมข้อมูลให้รอบด้านก่อนเพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป” นายก่อแก้วกล่าวและว่า นายจตุพรฝากบอกคนเสื้อแดงว่าไม่ต้องเป็นห่วง และขอให้อยู่ในความสงบ อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นกับนายจตุพรและนายนิสิตทำให้แกนนำต้องระมัดระวังตัวในการเคลื่อนไหวมากขึ้น โดยเฉพาะการพูดจา หากพลาดนิดเดียวถูกยื่นถอนประกันแน่
“จตุพร-นิสิต” ทำใจยอมรับชะตากรรม
นายวิภูแถลงกล่าวว่า นายจตุพรและนายนิสิตฝากบอกคนเสื้อแดงให้สุขุมรอบคอบ ทั้ง 2 คนทำใจยอมรับได้ แต่ก็รู้สึกเป็นห่วงครอบครัวของทั้ง 2 คน เพราะลูกของนายจตุพรยังเล็ก ขณะที่ลูกของนายนิสิตแม้จะโตแล้วแต่คงเศร้าโศกที่พ่อต้องมาประสบชะตากรรมเช่นนี้
อย่าหลงเกมสร้างความวุ่นวาย
“เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้คนเสื้อแดงรู้สึกเสียใจ โกรธแค้น และชิงชังกับสิ่งที่ได้รับ แต่อยากให้นิ่งไว้ก่อน เพราะหากลุกฮือกันขึ้นมาจะไปเข้าทางพวกที่ไม่ต้องการให้มีเลือกตั้งที่กำลังพยายามยั่วยุให้เกิดความวุ่นวายอยู่”
ดีเอสไอตามจับตาแกนนำที่เหลือ
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า การถอนประกันตัวนายจตุพรและนายนิสิตไม่ได้ถือว่าเป็นการประสบความสำเร็จ เพราะทำงานตามหน้าที่ สาเหตุของการถอนประกันมาจากการกระทำของทั้ง 2 คน ไม่ได้เกิดจากดีเอสไอ ส่วนแกนนำอีก 7 คนที่ศาลยกคำร้องถอนประกันตัวจะเฝ้าติดตามพฤติกรรมต่อไป
เอาผิดหมิ่นสถานบันไม่ราบรื่น
สำหรับความคืบหน้าในการดำเนินคดีหมิ่นสถาบันกับแกนนำและแนวร่วม นปช. นั้น นายธาริตกล่าวว่า ไม่สามารถออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาได้ เพราะพนักงานสอบสวนได้รับคำแนะนำเพิ่มเติมบางประการมาจากอัยการ สัปดาห์หน้าจะประชุมคณะทำงานเพื่อดำเนินการ โดยจะนำคำสั่งศาลที่ถอนประกันตัวนายจตุพรและนายนิสิตมาประกอบการพิจารณาด้วย
นายโสภณ ธิติธรรมพฤกษ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กล่าวว่า นายจตุพรและนายนิสิตเป็นผู้ต้องหาความผิดฐานเดียวกัน จำเป็นต้องแยกขัง ส่วนสิทธิอื่นๆมีเหมือนกับผู้ต้องหาทุกคน
เผย “จตุพร” เครียดวิตกกังวล
“วันที่ 13-17 พ.ค. นี้เป็นวันหยุดราชการ คงไม่อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยม เท่าที่พูดคุยกับนายจตุพรสังเกตได้ว่ามีความเครียด เพราะเป็นการติดคุกครั้งแรก ก่อนหน้านี้อาจเคยบ้างแต่ไม่กี่วันก็ได้ออกไป แต่ครั้งนี้ยังไม่รู้ว่าต้องอยู่นานแค่ไหน” นายโสภณกล่าวและว่า เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯเป็นสถานที่คุมขังผู้ต้องหาระหว่างการพิจารณาคดี ตามกฎหมายยังไม่ถือเป็นผู้กระทำความผิดตามคำพิพากษา กฎระเบียบต่างๆไม่เข้มงวดเหมือนเรือนจำที่คุมขังนักโทษเด็ดขาด มีการอนุโลมหลายเรื่อง
“สุเทพ” อ้างยังมีฝึกอาวุธเตรียมก่อเหตุ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การถอนประกันเป็นเรื่องปรกติของกระบวนการยุติธรรม เมื่อทำผิดเงื่อนไขศาลก็ต้องถูกดำเนินการ เชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นชนวนทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ขอให้ทุกคนเคารพกติกา
“คนเสื้อแดงควรยกเลิกการชุมนุมครบรอบ 1 ปีในวันที่ 19 พ.ค. นี้ ควรเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง” นายสุเทพกล่าวและว่า ไม่มีประเทศไหนในโลกที่พรรคการเมืองแข่งกัน แต่อีกพรรคมีกองกำลังทั้งติดอาวุธและไม่ติดอาวุธมาสนับสนุนข่มขู่ประชาชน เพราะไม่เป็นประชาธิปไตย เท่าที่เห็นมีความเคลื่อนไหวอยู่ มีการฝึกอบรมในประเทศเพื่อนบ้านที่เตรียมจะส่งเข้ามาได้ทุกเวลา
*********************************************** |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น