ผศ.ดร.จารุพรรณ กุลดิลก อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล นักวิชาการรุ่นใหม่ที่กล้าก้าวออกมาถามหาความจริง ทวงความยุติธรรมให้กับคนเสื้อแดงที่ถูกไล่ล่าจากเงื้อมมือกลุ่มอำมาตย์ผ่านทางรัฐบาลเผด็จการ ซึ่งการต่อสู้เพื่อคนเสื้อแดงใกล้ความจริงหรือยัง ตรงนี้มีคำตอบ
1 ปีเหตุการณ์ราชประสงค์
1 ปี ประชาชนไม่ลืมเหตุการณ์การสังหารหมู่ในใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ซึ่งฝ่ายรัฐสังหารเสร็จแล้วก็พยายามปกปิดกลบเกลื่อน ยืดเวลาในการสืบหาข้อเท็จจริง ตั้งคณะกรรมการต่างๆมากมาย เพื่อที่จะฟอกขาวให้ตัวเองในการฆาตกรรมประชาชน แต่ประชาชนจำนวนเรือนล้านไม่ลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเห็นแล้วว่าระบอบเผด็จการไม่อยากให้เกิดการเลือกตั้ง ถึงขนาดลงทุนสังหารประชาชน
เพราะฉะนั้นคนที่รักประชาธิปไตย รักประชาชน ต้องให้มีการเลือกตั้ง แต่ตรงกันข้ามกับเผด็จการที่ตั้งใจไว้คือ พยายามไม่ให้เกิดการเลือกตั้ง ไม่คืนอำนาจให้กับประชาชน จึงทำให้เกิดกิจกรรมจนถึงวันนี้ที่จะไม่ให้ลืมเหตุการณ์ในวันนั้น เราจัดกิจกรรมต่อเนื่องมาตลอดจนครบ 365 วัน มีการไปเยี่ยมแกนนำที่ถูกจับกุมคุมขัง มีการทำกิจกรรมทางวิชาการ มีการเผยแพร่และให้ความรู้ในเรื่องกฎหมายมากขึ้น วันนี้คนเสื้อแดงและผู้รักประชาธิปไตยรู้กฎหมายในเรื่องรัฐธรรมนูญ ปัญหารัฐธรรมนูญ ปัญหาของระบบรัฐสภา กระบวนการยุติธรรม และพร้อมแล้วที่จะเข้าสู่การเลือกตั้ง
การตรวจสอบไม่มีอะไรคืบหน้า
การตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมี 2 คณะใหญ่ๆที่อยู่ในสภาสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ ที่ทำการตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย คือ 1.Human Rights Watch หน่วยงานเอ็นจีโอที่ทำงานคู่ขนานไปกับสหประชาชาติ และมีที่นั่งอยู่ในสภาสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติด้วย 2.Asian Human Rights Commission กรรมาธิการสิทธิมนุษยชนเอเชีย ซึ่งดูแลสิทธิมนุษยชนของคนทั้งเอเชีย
2 หน่วยงานนี้พูดตรงกันว่าประเทศไทยมีกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ไม่โปร่งใส มีการปกป้องฝ่ายรัฐซึ่งเป็นฆาตรกรสังหารประชาชนอย่างเลือดเย็น ซึ่งจากรายงานนี้เองทำให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง โกรธมาก แล้วกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติที่เป็นฝ่ายภูมิภาคเอเชีย เสนอให้สหประชาชาติขับกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนไทยออกจากสหประชาชาติ มีจดหมายเป็นเรื่องเป็นราว เพราะไม่ใส่ใจเหตุการณ์สังหารหมู่ที่ราชประสงค์
อ้างว่ามีการติดตามแต่ไม่ได้ส่งรายงาน
ความจริงแล้วกรรมาธิการไทยต้องส่งเรื่องไปที่ Asian Human Rights Commission เพื่อนำเข้าสู่สหประชาชาติใหญ่ แต่ไม่ได้รับ จะไปอ้างว่าทำแล้ว ไหนคือผล จะบอกว่าทำงานไม่เป็นก็ไม่ได้ เมื่อปรากฏเช่นนี้ก็ไม่สมควรที่จะเป็นกรรมการสิทธิมนุษยชน ซึ่งตอนนี้ไทยมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง จะบอกทำงานไม่เป็นฟังไม่ขึ้น
สำหรับประเทศไทยมีนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เป็นประธานใน Human Rights Council คาดว่ามีความเกรงใจในสายสัมพันธ์ที่ยาวนาน ก็ไม่มีการทำหน้าที่เป็นปากเสียงให้กับประชาชนที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน ตรงนี้ต้องถามว่ายังทำหน้าที่เพื่อประชาชนคนไทยอยู่หรือไม่ และตนเองเป็นประธาน เชื่อว่าจะมีเกียรติมีศักดิ์ศรีพอที่จะสละสิทธิ์ถ้าทำหน้าที่ไม่ได้
คดีคนเสื้อแดงติดคุกอย่างเดียว
เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องสองมาตรฐานที่ประเทศไทยโด่งดังมากในแง่กรณีศึกษาไปทั่วโลก ถ้าพิมพ์ไปในกูเกิลเรื่องดับเบิลสแตนดาร์ดก็จะขึ้นว่าไทยแลนด์เต็มไปหมด อันนี้เป็นเรื่องที่น่าอับอายมาก เราจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก เสื้อแดงมีความอดทนมากในการที่จะไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ยังเชื่อว่าทุกวันนี้ประชาชนจะร่วมรับรู้ เรียนรู้ด้วยกันว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย และจะไม่ทำให้เกิดขึ้นอีกเรื่องสองมาตรฐาน
อย่างน้อยคนที่ถูกจับติดคุกวันนี้โดยปราศจากหลักฐานที่แน่ชัด ความเห็นไม่ชัดเจนระหว่างทหารกับเจ้าหน้าที่ศาลากลาง ในแง่ข้อมูลตัวเลขก็ไม่ตรงกัน ควรที่จะให้สิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน เขาควรได้รับการประกันตัว เพื่อไปตระเตรียมข้อมูลไว้สู้คดีในศาล ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ต้องเคารพให้มาก แต่ก็ไม่ได้รับการประกันตัว เพราะเขาแค่เป็นผู้ที่ถูกกล่าวหา ยังไม่ถูกตัดสิน ทำไมต้องกักขังด้วยในเมื่อเขาไม่ได้หลบหนี ไม่ไปวุ่นวายกับพยานหลักฐาน
รัฐบาลเกลียดคนเสื้อแดง
คนเขาก็เห็นว่ารัฐบาลมีพฤติกรรมเกลียด กลัวกลุ่มคนเสื้อแดงมากเกินไป พฤติกรรมเช่นนี้จึงทำให้เกิดสองมาตรฐานขึ้น ถามว่าทำไมต้องเกลียดและกลัวคนเสื้อแดงมากขนาดนี้ ทั้งๆที่คนเหล่านี้เป็นประชาชนคนไทยเช่นเดียวกับคนอื่นๆ
ศาลอาญาระหว่างประเทศตอบรับอย่างไรบ้าง
ปัจจุบันไอซีซี (ศาลอาญาระหว่างประเทศ) ตอนนี้มีกรณีของลิเบียที่เข้ามาเร่งด่วน จึงทำให้บุคลากรไปทำเรื่องลิเบีย แต่อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องดีที่ประชาชนคนไทยจะได้รับมาตรฐานเดียวกันกับการพิจารณาที่ลิเบีย เพราะเรื่องเข้าสู่ศาลอาญาระหว่างประเทศแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางต่างประเทศก็จะยึดถือตัวเอกสารเป็นหลักและจะไม่มีทางปล่อยละเลยไป จะมีการพิจารณาแน่นอนและเราก็จะได้มาตรฐานเดียวกับลิเบีย
บทบาทของนายธาริต
พฤติกรรมที่ผ่านมาของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้แสดงพฤติกรรมซ้ำซากในการที่จะพยายามถอนประกันแกนนำ ขณะนี้รีบเร่งถอนประกันแกนนำจนลืมไปว่าไม่สามารถถอนประกันได้ในคนละตัวบทกฎหมาย คนละกรณี เพราะแกนนำได้รับการประกันตัวในกรณีก่อการร้าย คนที่รู้กฎหมายทั่วโลกรับทราบดีว่าไม่สามารถเอาอีกคดีหนึ่งไปถอนอีกคดีหนึ่งได้ ทำให้เห็นว่ามีเจตจำนงที่ไม่บริสุทธิ์ต่อการดำเนินคดีกับคนเสื้อแดง ไม่รู้ว่ามีเวรกรรมอะไรกับคุณจตุพร (พรหมพันธุ์) หรือเปล่า
คนเสื้อแดงจะได้รับความยุติธรรมที่แท้จริง
ไม่มีทางถ้าอำนาจรัฐยังอยู่ในมือคนที่ใช้อำนาจเกิน พูดภาษาชาวบ้านก็คือบ้าอำนาจ ก็ไม่มีวันที่จะเห็นแสงสว่างของความเป็นธรรม ก็หวังว่าอำนาจควรจะกลับคืนสู่ประชาชน และจะไม่เอาอำนาจไปอยู่ในมือของคนบ้าอีก
รัฐบาลบอกเป็นฝีมือของคนชุดดำ
รัฐบาลพยายามที่จะบิดเบือนหลายข้อมูลเหลือเกินกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บางครั้งบอกว่าคนที่ตายนั้นเพราะคนชุดดำ หนักเข้าก็ว่าคนที่ตายวิ่งเข้าหากระสุนเอง ตอบกันคนละเรื่องคนละราว นิยายเรื่องคนชุดดำขอให้เลิกซะ บริเวณที่มีทหารอยู่ 80,000 นายจะไม่มีใครรู้เห็นเลยหรือ ไม่มีใครได้เบาะแสคนเสื้อดำเลย ก็เป็นนิยายของชายเสื้อดำที่รัฐบาลเขียนบทมา อยากบอกว่าประชาชนเบื่อที่จะรับฟังแล้ว อยากถามว่ามีอำนาจรัฐอยู่ในมือเต็มที่แล้วทำไมจับคนเสื้อดำไม่ได้ เขาเป็นใครเราก็อยากจะรู้
หลังเลือกตั้งจะมีการพูดถึงตรงนี้หรือไม่
แน่นอน วีรชนที่สูญเสียชีวิต บาดเจ็บ หรือสูญหาย ต้องได้รับการเยียวยา ครอบครัวต้องได้รับการดูแลต่อไปในอนาคต เพราะคนเหล่านี้คือวีรชน เขาเสียชีวิตเพื่อต้องการสร้างประชาธิปไตย ให้คุณค่าเรื่องความเป็นประชาชนของประเทศนี้ ตอกหมุดซะทีว่าต่อไปนี้จะไม่รัฐประหารอีก
มาตรฐานเสื้อแดงต่างกับเสื้อเหลือง
ยิ่งพูดก็ยิ่งช้ำใจว่าคุณค่าความเป็นคนทำไมต้องแตกต่างกันด้วย คนเสื้อแดงเรียกว่าอาสาสมัครที่มาสร้างประชาธิปไตย ถ้าไม่มีคนเหล่านี้รับรองว่าประเทศไทยยังมีรัฐประหารอีกซ้ำซาก และมีรัฐประหารมากที่สุดในโลก และรัฐธรรมนูญมากที่สุดในโลก เป็นเรื่องที่น่าอับอาย
6 ศพในวัดปทุมฯ
เป็นเรื่องที่รัฐบาลโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ออกอาการกลัวและไม่ยอมรับความจริง ถึงกับไล่ให้คณะกรรมการชุดนี้ไปหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีการลอบสังหารประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี้ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐแทน ก็ว่าไปนั่น
เขาว่ามีการยิงจากวัดปทุมฯใส่ทหาร
ก็ว่าไป หลักฐานไม่มีหรอก ลองบอกว่าให้ไปดูที่คณะ คอป. ของนายคณิต ซึ่งได้ข้อสรุปเหมือนกันว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐเป็นฝ่ายที่มีอาวุธ ก็ชัดเจน
ผบ.ทบ. บอกอย่าบีบให้จับปืนอีก
ไม่มีใครสามารถบังคับให้ใครจับปืนได้ มีแต่คนที่คิดจะจับปืนด้วยตัวเอง คิดจะประหัตประหารประชาชนด้วยตนเอง ตรงนี้ไม่มีใครบีบบังคับได้ถ้าจิตใจเข้มแข็ง กล้าหาญ ไม่มีใครกำหนดบงการให้เรากระทำผิดได้ วันนี้เชื่อว่าทหารหลายท่านได้เห็นประชาชน และเห็นว่า ณ วันนี้กองทัพเสียหายไปมาก ไม่สามารถนำพาให้กองทัพมีเกียรติมีศักดิ์ศรีในระดับสากลได้ ในหลายๆท่านก็เริ่มจะไม่เอาด้วย พอกันทีกับการที่จะนำทหารซึ่งถูกฝึกมาให้ใช้กำจัดอริราชศัตรูมายุ่งกับพลเรือนหรือการเมือง
จะล้มการเลือกตั้งถ้าเพื่อไทยชนะ
อยากบอกว่าไม่กลัวแน่นอน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตประชาชนสู้แน่นอน คราวนี้เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของประเทศ เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ต้องการให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ เพราะฉะนั้นคนส่วนน้อยที่เชื่อว่ามีอยู่ไม่กี่คนมีพลังไม่พอที่จะทำอะไรร้ายๆ และล้มล้างระบอบประชาธิปไตยอีกครั้ง
ประเทศไทยหลังการเลือกตั้ง
ประชาชนก็จะเรียนรู้มากขึ้น เป็นเรื่องซึ่งต้องอธิบายว่าเป็นกระบวนการที่ทุกประเทศต้องผ่านกันแล้วทั้งสิ้น เพื่อที่จะให้เห็นปัญหาของบ้านเมืองที่แท้จริง อาจมีการซื้อเสียงก็ต้องพยายามไม่ให้เกิดขึ้น หรือซื้อเสียงไม่สำเร็จ มีการพยายามแทรกแซงจัดตั้งรัฐบาล กระบวนการสังเกตการเลือกตั้ง จะฉายความรู้ตรงนี้ออกมาให้ประชาชนเรียนรู้กันทั้งหมด สิ่งเหล่านี้เมื่อถูกพูดถึง เรียนรู้แล้ว ก็จะรู้ว่าใครเป็นผู้กระทำผิด
คนเสื้อแดงจะก้าวต่อไปอย่างไร
คนเสื้อแดงเห็นตรงกันว่าจะต้องตอกหมุดว่าประชาชนคือคุณค่าสำคัญที่สุดของประเทศชาติ อันนี้คือประสบความสำเร็จขั้นที่ 1 ส่วนขั้นที่ 2 ก็คือ กลับเข้าสู่ระบบการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ในที่สุดก็จะได้ตัวแทนที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการคัดสรรเข้าไปแก้กฎหมาย เข้าไปแก้รัฐธรรมนูญ ให้สัดส่วนของกฎหมายแสดงถึงความเป็นประชาธิปไตย ขณะที่มวลชนก็จะตื่นตัวรับรู้ หากประเทศไทยพ้นวิกฤตไปได้คนเสื้อแดงก็จะถูกมองเห็นเป็นคนที่มีคุณภาพระดับภูมิภาค และคนจะถามคนเสื้อแดงถึงอนาคตว่าภูมิภาคเอเชียจะก้าวต่อไปอย่างไร
ที่มา : นิตยสารโลกวันนี้วันสุข ปีที่ 6 ฉบับ 310
วันที่ 14-20 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 หน้า 18 คอลัมน์ ฟังจากปาก โดย วัฒนา อ่อนกำปัง | |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น