วันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2556

“ชวน” เลิกอาย “ถ่อยเถื่อนเพื่อชาติ” ไม่เป็นทาสใคร


“ชวน” เลิกอาย “ถ่อยเถื่อนเพื่อชาติ” ไม่เป็นทาสใคร



       ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตประธานรัฐสภา กล่าวถึงปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในรัฐสภาบ่อยครั้งนั้น ว่า หัวใจสำคัญอยู่ที่ความเป็นอิสระในการทำหน้าที่ของประธานในที่ประชุม ซึ่งในอดีตไม่ว่าพรรคการเมืองไหนเลือกคนมาเป็นประธานรัฐสภาก็จะปล่อยให้ทำหน้าที่ได้โดยอิสระ เพราะคนเป็นประธานรัฐสภาต้องตระหนักตัวเองว่า ต้องวางตัวเป็นกลางโดยไม่ต้องมีใครมาสั่งได้ แต่ขณะนี้ไม่ใช่ กลายเป็นว่าต้องรอคำสั่งให้ทำอะไรอย่างไร จึงหมดความเป็นอิสระ ทำให้การตีความข้อบังคับตามเงื่อนไขที่ตัวเองต้องการไม่ได้เป็นไปตามหลัก เช่น การจำกัดสิทธิของผู้ที่แปรญัตติในสมัยก่อนไม่ค่อยมี ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปรากฏการณ์ชัดเจนว่าสภาฯ ได้เปลี่ยนแปลงไป เพราะประธานไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างอิสระ แต่อยู่ในเงื่อนไขที่พรรคหรือผู้มีอำนาจสั่งมา ทำให้บทบาทของประธานรัฐสภาไม่เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นจนเกิดข้อขัดแย้งในการประชุมรัฐสภา ที่มาจากเงื่อนไขการทำหน้าที่ของคนเป็นประธาน


          นายชวน กล่าวอีกว่า จากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอาจทำให้ประชาชนมองว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นจำเลยเพราะประชาชนไม่ได้เห็นหรือฟังการประชุมต่อเนื่อง เขาเห็นเฉพาะช่วงที่มีปัญหา เช่น ที่มีการทุ่มเก้าอี้แต่ไม่ได้ติดตามว่าถูกกดดันอย่างไร ทั้งการถูกตัดสิทธิไม่ให้พูดทั้งที่สงวนคำแปรญัตติ และอีกหลายอย่างจนทำให้เกิดอารมณ์ ทั้งนี้ตนได้เตือนเพื่อนสมาชิกร่วมพรรคให้อดทน และยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอาจทำให้ประชาชนเข้าใจพรรคประชาธิปัตย์ผิดว่าเป็นตัวป่วนของสภาฯ ส่วนการทำงานในรัฐสภาโดยไม่สูญเสียภาพลักษณ์ของพรรคนั้น ก็ต้องสยบยอมเขากลายเป็นเด็กดี ซึ่งไม่ใช่วิถีของพรรคประชาธิปัตย์ และไม่ต้องการอย่างนั้น ส่วนว่าพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่า จะไม่ยอมเป็นเด็กดีของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดดีตนายกฯใช่หรือไม่นั้น นายชวน กล่าวว่า คนที่เป็นเด็กดีเขาต้องสั่งได้ แต่ประชาธิปัตย์คือกลุ่มหนึ่งที่เขายังคุมไม่ได้ในบ้านเมืองนี้ แม้สิ่งที่พรรคกำลังต่อสู้อยู่จะทำให้พรรคตกเป็นเป้าในการถูกโจมตี ก็ต้องชี้แจงให้ประชาชนรู้ถึงสถานการณ์ว่ามีต้นเหตุอย่างไร ชาวสวนยางพาราเดือดร้อน แต่ ส.ส.กลับละเลยไม่สนใจ แม้จะมีการชุมนุมประท้วงก็ไม่มีใครไปดูแล คนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ถ้าทำอย่างนั้นต้องถูกตำหนิ ดังนั้นคนที่เป็นผู้แทนฯ ต้องตระหนักภาระหน้าที่ของตัวเอง


          นายชวนกล่าวอีกว่า สำหรับการจะยับยั้งการใช้อำนาจโดยไม่ถูกต้อง จึงต้องยึดพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯที่พระราชทานให้ไว้เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.เมื่อ 3-4 ปีก่อนที่ว่า ให้ทุกคนกลับไปทบทวนว่ามีหน้าที่ทำอะไร แล้วทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุด เพราะสังคมนี้เป็นสังคมที่เรียกร้องให้คนอื่นทำแต่ตัวเองไม่ทำ เหมือนที่เราได้ยินผู้ใหญ่พูดว่าการโกงไม่ดี แต่ตัวเองกลับโกง หรือพูดถึงประชาธิปไตยสวยหรูแต่มาจากการซื้อเสียงโกงการเลือกตั้ง ดังนั้นทุกคนต้องถามตัวเองว่าทำหน้าที่ของตัวเองดีพอหรือยัง

ขอขอบคุณข่าวสดออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น