วันศุกร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2554

Landslide ของเพื่อไทยกับเกมยื้อของประชาธิปัตย์
Landslide ของเพื่อไทยกับเกมยื้อของประชาธิปัตย์

         จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
         ปีที่ 12 ฉบับที่ 3031 ประจำวัน จันทร์ ที่ 11 เมษายน 2011
         โดย เรืองยศ จันทรคีรี
http://www.dailyworldtoday.com/columblank.php?colum_id=51345


ถ้าเราไม่เอาการวิเคราะห์ของนายจตุพร พรหมพันธุ์ มาเป็นคำตอบเพื่อมองอนาคตที่จะเกิดขึ้นในบ้านเมืองนี้ ทั้งช่องทางของการปฏิวัติดัง ปฏิวัติเงียบ โกงเลือกตั้ง รวมทั้ง “โรคที่คาดไม่ถึง” ซึ่งมีการเตือนให้ระวังผู้ใกล้ชิดและการ์ดที่อยู่ใกล้ตัวของนายกรัฐมนตรี...

เมื่อไม่ยึดเอา 4 แนวทางนี้เป็นคำตอบแล้วก็พยายามจินตนาการไปกับข้อมูลที่ พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ประกาศร่วมกับ 4 เหล่าทัพ ยืนยันที่ทหารรับรองไม่ปฏิวัติเด็ดขาด หากใครฝ่าฝืนย่อมถือเป็นกบฏ!

เอาเรื่องการวิเคราะห์ 4 แนวทางของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ให้เป็นตัวตั้งแล้วหักลบด้วยคำยืนยันของฝ่ายทหาร หากผลลงเอยเป็นเช่นนี้ โอกาสข้างหน้าก็ดูออกจะราบเรียบแบบพิลึกกึกกือเหมือนกัน ถามว่าสถานการณ์ในอนาคตสำหรับประเทศไทยมันจะง่ายดายขนาดนั้นเชียวหรือ?

คือสมมุติว่าทหารจะไม่ปฏิวัติแบบดังหรือแบบเงียบ แต่โดยส่วนตัวแล้วผมยังเล็งเห็น “สถานการณ์อื่น” คงเป็นหัวข้อที่พร้อมจะแปรปรวนกลายเป็นยาดำเข้ามาแทรกตัวอยู่ได้เสมอ

“โดยเฉพาะอีกช่องทางเลือกซึ่งนายจตุพรไม่ได้ระบุเอาไว้ แล้วยังไม่เกี่ยวข้องอะไรทั้งสิ้นกับคำรับรองจาก 4 เหล่าทัพ...นั่นเห็นจะเป็นสถานการณ์ยื้อการเลือกตั้งให้ยาวออกไปโดยฝีมือของคณะรัฐบาลชุดนี้...มันเป็นไปได้และน่าคิดอยู่มากทีเดียว?”

แม้ผลโพลของบางสำนักเช่น “เอแบคโพลล์” จะสำรวจคำนวณหักลบกลบหนี้ สรุปผลให้ทั้งพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทยคาดคะเนว่าสามารถคว้าเก้าอี้ ส.ส. ได้ในจำนวนที่เท่ากัน 185 เสียง หากผลออกมาเป็นอย่างนี้จริง ทางพรรคประชาธิปัตย์เห็นจะใจชื้น เพราะอย่างน้อยก็ยังมีโอกาสช่วงชิงเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ล็อกพรรคขนาดเล็กขนาดกลางเอาไว้ให้แน่น เห็นทีจะสามารถเบียดพรรคเพื่อไทยไปได้เนื่องจากมีตัวช่วยเยอะเหลือเกิน?

แต่ก็อย่าลืมว่าข้อสรุปในแนวของเอแบคโพลล์ ซึ่งเข้าใจว่ายังมีอีกหลายโพลที่มีจุดยืนกันในลักษณะนี้ เป็นการทำโพลโดยการประเมินปัจจัยบวกแบบสุดๆ เข้าข่ายเชียร์ประชาธิปัตย์ ส่วนพรรคเพื่อไทยก็คำนวณในบริบทแบบร้ายหรือลบสุดๆ...ขนาดประเมินกันในจุดยืนอย่างนี้ “พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่อาจชนะเลือกตั้งได้เลย?”

แล้วถ้าไม่เชื่อกระแสประเมินข้างต้น ทางฝ่ายพรรคเพื่อไทยก็ประเมินของเขาเหมือนกันสำหรับโอกาสที่จะคว้าได้ถึง 270 ที่นั่ง เกิดเพื่อไทยได้เก้าอี้ขนาดนี้ก็ไม่รู้จะเอาประชาธิปัตย์ไปไว้ที่ไหน? เรามาสมมุติกันต่อสำหรับปรากฏการณ์ที่เป็น “Landslide” อันหมายถึงประชาชนทุ่มเทคะแนนเสียงลงไปเลือกพรรคเพื่อไทยชนิดถล่มทลาย กลายเป็นกระแสซึ่งเกินกว่าประสิทธิภาพใบเหลืองปลอมจะแพร่โรคระบาดได้

ปรากฏการณ์ Landslide อันเป็นช่องทางที่อาจเกี่ยวกับทหารได้เหมือนกัน แม้เขายืนยันกันหนักแน่นที่จะไม่ปฏิวัติ? หากเราจะไม่ใช้ถ้อยคำเป็น “โกงเลือกตั้ง” เพราะถือว่าเป็นคำไม่สุภาพ เปลี่ยนเสียใหม่เป็น “การบริหารผลการเลือกตั้งให้เป็นไปตามธง”

มันมีข้อเท็จจริงที่ควรคำนึงถึงอยู่ไม่น้อยสำหรับการจัดการบริหารผลการเลือกตั้งเพื่อให้เป็นไปตามธงหรือใบสั่ง เพราะประสิทธิภาพของเทคนิคตรงนี้ก็มีข้อจำกัดอยู่เหมือนกัน “เนื่องจากถ้าบังเกิด Landslide เห็นจะเป็นความยากลำบากที่จะชี้ให้พรรคการเมืองในใจกลายเป็นพรรคอันดับหนึ่งได้?”

หากพูดแบบสุภาพคงว่ากันอย่างนี้ แต่แบบตรงไปตรงมาก็คือ “Landslide ทำให้โกงยาก” ทางฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งฝ่ายเทคนิคพิเศษที่อยู่เบื้องหลังก็ต้องคิดในเรื่องนี้เป็นอีกคำตอบ แม้สมาชิกจำนวนไม่น้อยของพรรคประชาธิปัตย์ยังพอมีความสุขอยู่กับโพลที่ออกข่าวมาเป็นระยะ พยายามสร้างข้อมูลให้สังคมรับทราบล่วงหน้าที่พรรคประชาธิปัตย์จะคว้าเก้าอี้ในระดับ 210 ถึง 270
ตัวเลขเช่นนี้มีความเป็นไปได้สำหรับเป็นการชี้ชวนให้เชื่อล่วงหน้า เพราะเมื่อถึงเวลาใช้เทคนิคจริงในการบริหารผลการเลือกตั้งจะได้ดูมีเหตุมีผล ประชาชนก็อาจเห็นคล้อยตามไปถึงความสะอาดบริสุทธิ์ของการเลือกตั้ง แม้เบื้องหลังจริงมันจะเป็นพฤติกรรมซึ่งตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง?

ปัจจัยอีกประการที่ควรพูดถึงเห็นจะได้แก่ฝีมือในการบริหารกับผลงานของรัฐบาล ซึ่งเมื่อวัดกันถึงช่วงเวลานี้ไม่มีอะไรที่เข้าตาสักอย่างถ้าหากจะมองแบบของจริง ซึ่งไม่เฝ้าปลอบใจเหมือนข้อมูลประดิษฐ์เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์หรือโฆษณาชวนเชื่อ

ตรงนี้จึงเป็นคำถามว่า ในยามที่เรทติ้งตกต่ำกันขนาดนี้ มีหรือที่ประชาธิปัตย์จะชูคออยากออกหาเสียงในการเลือกตั้ง คิดเกมยืดหรือยื้อเวลาให้ยาวออกไปมากกว่านี้จะไม่ดีกว่าหรือ? อย่างน้อยที่สุดมีโอกาสในการใช้เวลาที่เหลือโปรยทานประชานิยมเพื่อเพิ่มเติมเม็ดคะแนนให้มันดีกว่าขณะนี้...

ด้วยเหตุด้วยผลที่กล่าวมาทั้งหมด โอกาสที่รัฐบาลยังไม่อยากยุบสภาก็เป็นไปได้สูง เหตุผลและข้ออ้างไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไรนัก? กฎหมายลูก 3 ฉบับอาจถูกใช้เป็นขบวนการจับยืด อยากให้นานแค่ไหนมันทำได้ทั้งนั้นถ้าหากเป็นอย่างหนา 5 ห่วงซะอย่าง? บางทีไม่ต้องกังวลเรื่องปฏิวัติอีกแล้ว ประเด็นยืดเวลาอาจเป็นปัญหาเข้ามาแทน?
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น