วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2554


โอละพ่อ!ผังล้มเจ้า‘สรรเสริญ’ยอมรับศอฉ.เขียนจากความเชื่อ


        เรื่องจากปก
         จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
         ปีที่ 12 ฉบับที่ 3062 ประจำวัน พฤหัสบดี ที่ 26 พฤษภาคม 2011

            http://www.dailyworldtoday.com/newsblank.php?news_id=10825
         “สุธาชัย” เผย “สรรเสริญ” ยอมรับเป็นลายลักษณ์อักษรในเอกสารเสนอเงื่อนไขขอไกล่เกลี่ยยอมความคดีที่ถูกยื่นฟ้องหมิ่นประมาทในฐานะเป็นโฆษก ศอฉ. แถลงข่าวเรื่องขบวนการล้มเจ้า แจกจ่ายแผนผังล้มเจ้ากับสื่อมวลชนเมื่อปีที่แล้วว่าแผนผังของ ศอฉ. เกิดจากความเชื่อว่ามีขบวนการล้มเจ้าเกิดขึ้น พร้อมอ้างไม่ได้เป็นคนพูดว่าผู้มีชื่ออยู่ในแผนผังเกี่ยวข้องกันในฐานะร่วมดำเนินการล้มเจ้า แค่ชี้ให้เห็นความสัมพันธ์ของกลุ่มคนในฐานะต่างๆ เพื่อเป็นข้อมูลให้ประชาชนพิจารณาเท่านั้น โทษสื่อตีความกันไปเอง “ธิดา” ชี้ถือเป็นความอัปยศของ ศอฉ. ที่จ้องแต่ทำลายฝ่ายตรงข้าม เย้ย “ธาริต” คงยังไม่เห็นเอกสารขอยอมความจึงออกหมายเรียกแกนนำและแนวร่วม นปช. มารับทราบข้อหาล้มเจ้า ด้านหลาน “แก้วขวัญ” ยืนยันลงสมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทยไม่ใช่สัญญาณพิเศษเรื่องความปรองดอง มั่นใจในพรรคไม่มีใครไม่จงรักภักดี

วันที่ 25 พ.ค. 2554 ที่อิมพีเรียล ลาดพร้าว นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดแถลงข่าวระบุว่า จากที่ได้ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทและฟ้องเรียกค่าเสียหายจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยที่ 1 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยที่ 2 พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ในฐานะโฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เป็นจำเลยที่ 3 จากกรณีร่วมกันเผยแพร่ผังขบวนการล้มเจ้าที่มีชื่อตนปรากฏอยู่ร่วมกับบุคคลอีกหลายคน ซึ่งทำให้ได้รับความเสียหาย


ศาลแพ่งไม่รับฟ้องเรียกค่าเสียหาย


“คดีนี้ผมฟ้องเรียกค่าเสียหายประมาณ 300,000 กว่าบาท แต่ศาลแพ่งไม่รับฟ้อง โดยให้เหตุผลว่าจำเลยกระทำตามหน้าที่และได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ศาลอาญารับฟ้อง ซึ่งในช่วง 1 ปีที่ฟ้องนั้นศาลนัดไปไกล่เกลี่ยหลายครั้ง โดยฝ่ายจำเลยมอบหมายให้อัยการเป็นผู้ดำเนินการไกล่เกลี่ย ซึ่งช่วงแรกผมยังไม่ยอม แต่ล่าสุดเห็นว่ามีประเด็นสำคัญจึงยืนยอมไกล่เกลี่ยคดี”


ผังล้มเจ้า ศอฉ. เกิดจากความเชื่อ


นายสุธาชัยกล่าวอีกว่า ประเด็นสำคัญที่พูดถึงคือเอกสารไกล่เกลี่ยจาก พ.อ.สรรเสริญที่ยอมรับในสิ่งสำคัญ 2 เรื่องคือ 1.ผังล้มเจ้าที่นำมาเผยแพร่นั้นเกิดจากความเชื่อว่ามีขบวนการล้มเจ้า ล้มสถาบันเกิดขึ้นจริง และ 2.การเผยแพร่ผังล้มเจ้าเป็นไปตามมติของที่ประชุม ศอฉ. ที่ต้องการนำเสนอข้อมูลให้ประชาชนได้พิจารณา ศอฉ. ไม่ได้หมายความว่าผู้ที่มีรายชื่ออยู่ในผังจะเป็นผู้เกี่ยวข้องกันในฐานะกระบวนการล้มเจ้า เป็นเพียงการแสดงให้เห็นความเกี่ยวข้องกันในฐานะอะไร เช่น เป็นพี่น้อง ทำธุรกิจร่วมกัน เพื่อให้ประชาชนได้วินิจฉัยเอาเอง และตนไม่ได้พูดว่าบุคคลเหล่านี้เกี่ยวข้องกันในฐานะเป็นขบวนการล้มเจ้า แต่หลังจากแถลงข่าวไปแล้วสื่อมวลชนนำไปขยายความ ขยายผลกันเอง


ซัดกล่าวหาจากความเชื่อไร้หลักฐาน


“น่าแปลกตรงที่ตามปรกติแล้วการดำเนินคดีหรือจะกล่าวหาใครต้องเริ่มต้นจากมีพยานหลักฐานชี้ชัดว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แต่นี่กลับเกิดจากจินตนาการ คิดเอาเอง โดยใช้ความเชื่อ และ 1 ปีกว่าที่ผ่านมาเขาไม่สามารถหาพยานหลักฐานอะไรมาเอาผิดกับผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นขบวนการล้มเจ้าได้ การที่เขาขอไกล่เกลี่ยคดี โดยให้ผู้พิพากษาและอัยการเป็นคนกลางเพราะไม่มีพยานหลักฐานที่จะสู้คดีได้ เมื่อเขายอมรับว่าเป็นเพียงความเชื่อผมเห็นว่าเป็นข้อเสนอที่รับได้จึงยอมความ”


“ธิดา” ชี้เป็นความอัปยศของ ศอฉ.


นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน กล่าวเสริมว่า ผังล้มเจ้าถือเป็นความอัปยศของ ศอฉ. ที่คิดเอาเองตามความเชื่อ ตามจินตนาการ


“นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คงยังไม่มีโอกาสได้เห็นเอกสารไกล่เกลี่ยของ พ.อ.สรรเสริญจึงเอาผังล้มเจ้าของ ศอฉ. มาเป็นข้ออ้างในการดำเนินคดีกับแกนนำและแนวร่วม นปช. 19 คน โดยออกหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 2 มิ.ย. นี้ และที่น่าแปลกใจคือตามหมายเรียกไม่ได้อ้างถึงมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญาปัจจุบัน แต่บอกว่าเป็นการทำผิดตามมาตรา 52 ประมวลกฎหมายอาญาเมื่อปี 2477 นี่คือประเทศไทยและสังคมที่คิดจะกล่าวหาใครก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีพยานหลักฐาน มุ่งหวังเพียงอย่างเดียวคือการทำลายฝ่ายตรงข้าม”


หลาน “แก้วขวัญ” ยันไม่ใช่สัญญาณพิเศษ


พ.ต.อณันย์ วัชโรทัย ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเสียงวิจารณ์การเข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อล้างภาพไม่จงรักภักดีกับสถาบัน โดยอาศัยความเป็นหลานของนายแก้วขวัญ วัชโรทัย เลขาธิการสำนักพระราชวัง ว่าที่เข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยเพราะชื่นชอบนโยบาย และไม่ได้ปรึกษาใครในครอบครัวหรือในตระกูลวัชโรทัย


“ที่ผมเข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นสัญญาณพิเศษเรื่องการปรองดองหรือสมานฉันฑ์ระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับใครตามที่พูดกัน การมาอยู่กับพรรคเพื่อไทยของผมตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรซับซ้อน ผมไม่ใช่เพิ่งเข้าสู่การเมือง เพราะก่อนหน้านี้เคยร่วมงานกับพรรคประชาไทย พรรคความหวังใหม่ และพรรคไทยรักไทยมาแล้ว ท่านแก้วขวัญเป็นผู้ใหญ่ ผมไม่กล้าไปขอคำแนะนำอะไรจากท่าน เพราะท่านไม่เกี่ยวกับการเมือง ยืนยันได้ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในตระกูล ตระกูลของผมทำงานใกล้ชิดสถาบันตั้งแต่บรรพบุรุษ ผมไม่รู้ว่าใครคิดอะไร ใครมีปัญหาอะไร ยืนยันว่าผมจะไม่ทำให้ตระกูลเสื่อมเสีย”
มั่นใจไม่มีใครไม่จงรักภักดี


ผู้สื่อข่าวถามว่าตระกูลวัชโรทัยทำงานใกล้ชิดสถาบัน แต่พรรคเพื่อไทย รวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณถูกกล่าวหาไม่จงรักภักดีกับสถาบัน พ.ต.อณันย์กล่าวว่า มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ไม่เชื่อว่าจะมีใครไม่จงรักภักดี จึงกล้าเข้ามาร่วมงานกับพรรค เรื่องที่คนภายนอกพูดกันเป็นเรื่องเข้าใจผิด วันนี้จำเป็นต้องเข้าใจให้ถูก เพราะหากเชื่อโดยไม่ดูข้อมูลจะทำให้ปัญหาไม่จบ
ด้านกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยแจ้งว่าจะจัดกิจกรรมรณรงค์หยุดใช้มาตรา 112 คุกคามคนเสื้อแดงที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานดีเอสไอ โดยจะนำแนวร่วมไปถือป้ายที่มีข้อความต่างๆ เช่น หยุดใช้ 112 เก็บกวาดคนเสื้อแดง, ปล่อยตัวนักโทษการเมือง, ขอสิทธิผู้ถูกกล่าวหาได้รับการประกันตัว และจะร่วมกันตะโกนข้อความว่า “ข้าราชการที่ดีต้องไม่รังแกประชาชน...หยุดใช้ 112 เก็บกวาดคนเสื้อแดง”


กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยให้เหตุผลว่าการจัดกิจกรรมรณรงค์ครั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันมีประชาชนทั่วประเทศถูกดำเนินคดีโดยใช้มาตรา 112 กว่า 400 คน บางรายไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่าทำความผิดตามข้อกล่าวหา และส่วนมากไม่ได้รับสิทธิการประกันตัว


**************************************
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น