วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2554


โกหก ตอแหล นี่หรือ นิสัยชายชาติทหาร ไทย

ไก่อูรับสิ้นไส้กลางศาลผังล้มเจ้ามั่วทั้งดุ้น
โยนบาปสื่อหรือใครนำไปขยายผลก็ซวย พ่นพิษธาริตงานเข้า
คำแถลงต่อศาลของพ.อ.สรรเสริญ:ข้าฯได้รับมอบหมายให้นำเอกสารเหล่านั้นไปแจกแก่สื่อมวลชนซึ่งเอกสารที่ไปแจกนั้นมิได้หมายความว่าผู้ที่มีชื่อในเอกสารเป็นผู้เกี่ยวข้องในฐานะอยู่ในขบวนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่เป็นความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ในลักษณะต่างๆ ซึ่งให้สังคมพิจารณาและวินิจฉัยเอาเอง ซึ่งมีรายละเอียดอยู่ในเอกสาร ว่าแต่ละคนเกี่ยวข้องกันในฐานะอะไร เช่น เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันในฐานะญาติพี่น้อง เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันในฐานะผู้ทำธุรกิจร่วมกันอย่างนี้เป็นต้น ซึ่งมิได้แถลงเลยว่า บุคคลทั้งปวงเหล่านั้นมีความสัมพันธ์ในฐานะที่เป็นผู้อยู่ในขบวนการ และมิได้ให้หมายความเช่นนั้น

แต่หลังจากนั้นมีสื่อมวลชนนำเรื่องราวต่างๆเหล่านี้ไปขยายผล ขยายความ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อผู้ที่เกี่ยวข้องในแผนผังดังกล่าว ทำให้ได้รับความเสียหายจากมุมมองของสังคม เพราะเป็นเรื่องที่สังคมจะต้องตัดสิน ส่วนผู้ที่ได้รับความเสียหายที่เกิดขึ้นจะฟ้องร้องกับผู้ที่นำไปขยายความในทางที่ผิดจากเจตนารมณ์ของศอฉ ก็สุดแล้วแต่บุคคลเหล่านั้นจะพิจารณา(แฟ้มภาพ:ตอนที่สรรเสริญแถลงข่าวผังล้มเจ้า โดยมีธาริตนั่งติดกันตอนนี้ไก่อูสารภาพแล้วว่า ผังล้มเจ้ามั่ว แต่ธาริตยังนำมาเป็นเหตุจะจับ19แกนนำนปช.ยัดคุก)


โดยทีมข่าวไทยอีนิวส์
25 พฤษภาคม 2554


ดร.สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯได้ถอนฟ้องคดี"ผังขบวนการล้มเจ้า"ต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด แล้ว หลังจากพ.อ.สรรเสริญได้แถลงยอมรับต่อศาลว่า ผังขบวนการล้มเจ้าเป็นแค่การโยงบุคคลต่างๆ ว่าแต่ละคนเกี่ยวข้องกันในฐานะอะไร เช่น เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันในฐานะญาติพี่น้อง เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันในฐานะผู้ทำธุรกิจร่วมกันอย่างนี้เป็นต้น มิได้แถลงเลยว่า บุคคลทั้งปวงเหล่านั้นมีความสัมพันธ์ในฐานะที่เป็นผู้อยู่ในขบวนการ และมิได้ให้หมายความเช่นนั้น


อย่างไรก็ตามมีปัญหาตามมาว่าการที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีDSIออกหมายเรียก19แกนนำนปช.มามอบตัวในวันที่ 2 มิถุนายน โดยอ้างอิงจาก"แผนผังขบวนการล้มเจ้าของศอฉ."นั้น จะมีผลอย่างไร ในเมื่อศอฉ.ที่เป็นต้นเหตุบอกว่า โยงไปให้คนคิดเอง แถมคนเอาผังล้มเจ้าไปขยายผลแบบนายธาริตก็ต้องรับผลกรรมจากการถูกดำเนินคดีเองด้วย

คลิปข่าวพ.อ.สรรเสริญ โฆษก ศอฉ แถลงเรื่องผังล้มเจ้าเมื่อ 26 เมษายนปีกลาย







ดร.สุธาชัยได้ถอนฟ้องจำเลยทั้งสาม ภายหลังจากพ.อ.สรรเสริญ ในฐานะจำเลยที่สาม ได้แถลงต่อศาล ดังนี้

"ประการที่หนึ่ง ศอฉ ในขณะนั้นเชื่อมั่นว่ามีขบวนการที่จ้องจะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์จริง

ประการที่สอง ในช่วงเวลานั้น มีข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอินเตอร์เน็ตกล่าวหาในลักษณะทำนองว่า ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ซึ่งเป็นราชเลขาธิการในพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ โทรศัพท์มาสั่งการศอฉ อยู่ตลอดเวลา ให้ดำเนินการนานับประการกับกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งข้อเท็จจริงมิได้เป็นเช่น ซึ่งหมายความว่ามีความพยายามยามจะสร้างภาพให้สังคมเห็นว่า พระองค์ท่านมีส่วนเกี่ยวพันกับเรื่องการเมือง ซึ่งมิได้เป็นความจริง ศอฉ ก็มีความจำเป็นที่ต้องชี้แจงข้อมูลข่าวสารให้สีงคมได้รับทราบความจริงเป็นเช่นไร

นอกจากนั้นแล้ว ศอฉ ก็ได้ขยายความลงไปเพราะว่าทางราชการมีหน่วยงานทางด้านความมั่นคง ที่สำนักนายกรัฐมนตรีได้จัดตั้งขึ้น โดยมีหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งหน่วยงานด้านความมั่นคงก็มีการรวบรวมข้อมูลข่าวสารของขบวนการที่จ้องจะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด จึงได้นำข้อมูลทั้งหลายเหล่านี้มาประกอบเพื่อใช้ในการชี้แจงทำความเข้าใจกับสังคม

ประการที่สาม ในช่วงเวลาเช้าของวันเกิดเหตุ ข้าฯได้มีการแถลงข่าวให้สังคมรับทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่าไมม่เป็นความจริงตามข้อมูลที่พยายามกล่าวหาใส่ร้ายท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ โดยแถลงกำกับตอบไปด้วยว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการล้มเจ้านั้น ในขณะนั้นมีคุณดาตอร์ปิโด กับคุณจักรภพ เพ็ญแข ซึ่งทั้งสองคนนี้มีหมายจับไว้แล้ว ในช่วงเวลาเย็นเกิดจากการประชุมในช่วงบ่ายของศอฉ.ได้มติของศอฉ ที่ต้องการจะให้นำเสนอข้อมูลข่าวสารแก่สังคมเป็นลายลักษณ์อีกษรอีกทางหนึ่ง เพื่อให้สังคมพิจารณา

ข้าฯได้รับมอบหมายให้นำเอกสารเหล่านั้นไปแจกแก่สื่อมวลชน ซึ่งเอกสารที่ไปแจกนั้นมิได้หมายความว่าผู้ที่มีชื่อในเอกสารเป็นผู้เกี่ยวข้องในฐานะอยู่ในขบวนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่เป็นความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ในลักษณะต่างๆ ซึ่งให้สังคมพิจารณาและวินิจฉัยเอาเอง ซึ่งมีรายละเอียดอยู่ในเอกสาร ว่าแต่ละคนเกี่ยวข้องกันในฐานะอะไร เช่น เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันในฐานะญาติพี่น้อง เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันในฐานะผู้ทำธุรกิจร่วมกันอย่างนี้เป็นต้น ซึ่งมิได้แถลงเลยว่า บุคคลทั้งปวงเหล่านั้นมีความสัมพันธ์ในฐานะที่เป็นผู้อยู่ในขบวนการ และมิได้ให้หมายความเช่นนั้น

แต่หลังจากนั้นมีสื่อมวลชนนำเรื่องราวต่างๆเหล่านี้ไปขยายผล ขยายความ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อผู้ที่เกี่ยวข้องในแผนผังดังกล่าว ทำให้ได้รับความเสียหายจากมุมมองของสังคม เพราะเป็นเรื่องที่สังคมจะต้องตัดสิน ส่วนผู้ที่ได้รับความเสียหายที่เกิดขึ้นจะฟ้องร้องกับผู้ที่นำไปขยายความในทางที่ผิดจากเจตนารมณ์ของศอฉ ก็สุดแล้วแต่บุคคลเหล่านั้นจะพิจารณา"

ทั้งนี้ศาลได้ดำเนินการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาท เมื่อโจทก์(ดร.สุธาชัย)รับฟังข้อเท็จจริงจากจำเลยที่สาม(พ.อ.สรรเสริญ)จึงไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีต่อจำเลยทั้งสามอีกต่อไป จึงขอถอนฟ้องจำเลยที่สาม

ก่อนหน้านี้นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เคยให้สัมภาษณ์ว่าแผนผังดังกล่าวเป็นเรื่องที่คิดกันขึ้นสดๆในที่ประชุมศอฉ.ในตอนที่จะหาเหตุสลายการชุมนุมเสื้อแดงเมื่อเดือนพฤษภาคมปีกลายนั่นเอง และยังรู้สึกละอายใจที่กุเรื่องนี้ขึ้นมา

ผังล้มเจ้า-เป็นเอกสารที่ ศอฉ เคยแถลงข่าว(ดูรายละเอียดข่าว) และสื่อนำไปขยายผล จนเป็นเหตุอ้างในการสังหารผู้ชุมนุมกว่า 92 ศพเมื่อปีกลาย เพราะถูกทำให้เชื่อว่าเป็นพวกล้มเจ้า แม้แต่ตอนนี้ธาริตDSIยังนำมาออกหมายเรียก19แกนนำ นปช. แต่พอสรรเสริญ แก้วกำเนิดสารภาพกลางศาลว่าเชื่อมโยงมั่วๆแล้วสื่อขยายความขยายผลไปเอง ปรากฎว่าไม่มีสื่อกระแสหลักนำเสนอข่าวนี้เลย นี่เป็นความเงียบอันอึกทึกครึกโครมอีกครั้งของวงการสื่อไทย


แผนผังล้มเจ้าธาริตนำมาเป็นเครื่องมือออกหมายเรียก19แกนนำนปช.

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอได้นำผังล้มเจ้ามาออกหมายเรียก 19 แกนนำนปช.เข้ารายงานตัวและขู่จับขังคุก หากเป็นไปตามที่พ.อ.สรรเสริญแถลงว่า ส่วนผู้ที่ได้รับความเสียหายที่เกิดขึ้นจะฟ้องร้องกับผู้ที่นำไปขยายความในทางที่ผิดจากเจตนารมณ์ของศอฉ ก็สุดแล้วแต่บุคคลเหล่านั้นจะพิจารณา งานนี้นายธาริตน่าจะเจองานเข้าอย่างหนักในลำดับต่อไป


อย่างไรก็ตาม นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี ดีเอสไอ แถลงเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา ว่า มีมิติให้ดีเอสไอดำเนินคดีความผิดต่อความมั่นคงว่าด้วยการล่วงละเมิดสถาบันฯ ตั้งแต่ปี 2553

การดำเนินคดีนี้ไม่ใช่การกระทำผิดเฉพาะตัวบุคคล แต่เป็นการกระทำความผิดในลักษณะเครือข่าย มีการแบ่งหน้าที่กันทำ มีทั้งฝ่ายตัวการร่วมฝ่ายผู้สนับสนุน ฝ่ายออกความคิดและฝ่ายให้เงินสนับสนุนให้มีการเปิดเว็บไซต์ เป็นลักษณะเครือข่ายที่เกี่ยวพันต่อเนื่องกันมาโดยตลอด ดีเอสไอมีความเห็นว่าความผิดในคดีล้มเจ้าเป็นความผิดคู่ขนานกับความผิดฐานก่อการร้าย ผู้กระทำความผิดทั้ง 2 คดี เป็นบุคคลกลุ่มเดียวกัน

ดังนั้นการกระทำความผิดล่วงละเมิดสถาบันฯ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 54 จึงไม่ได้เป็นการกระทำความผิดเพียงคนเดียวของนายจตุพร พรพันธุ์ หรืออีก 3 คน ที่ขึ้นพูดบนเวทีปราศรัย แต่ได้พิจารณาเห็นว่ามีผู้ที่เข้าข่ายเกี่ยวข้องไม่เป็นตัวการร่วม หรือเป็นผู้สนับสนุนในความผิด 2 ฐานหลักคือความผิดยุยงปลุกปั่นตามมาตรา 116 และการล่วงละเมิดสถาบันฯ ตามมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา จากพฤติการณ์ดังกล่าว เบื้องต้นมีความผิดเพียงพอที่ดีเอสไอจะแจ้งข้อกล่าวหาคดีล้มเจ้ากับผู้ต้องหา 19 คน โดยทั้ง 19 คน อยู่ในแผนผังตามที่ ศอฉ.ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดีเอสไอดำเนินคดีก่อนหน้านี้

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า สำหรับกำหนดตารางกันการทำงานของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จะเริ่มจากวันจันทร์ ที่ 23 พ.ค. ดีเอสไอจะออกหมายเรียกส่งจดหมายไปยังทั้ง 19 คน เพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 2 มิ.ย.54 เวลา 09.00 น.ที่สำนักคดีอาญาพิเศษ ดีเอสไอ ชั้น 8 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียติ อาคารบี

สำหรับรายชื่อ แกนนำ นปช.และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ถูกดีเอสไอออกหมายเรียกดำเนินคดีล้มเจ้าทั้ง 19 คน ประกอบด้วย นายจตุพร พรหมพันธุ์ นพ.เหวง โตจิราการ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ นายการุณ โหสกุล นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายชินวัฒน์ หาบุญพาด นายวิเชียร ขาวขำ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน นายขวัญชัย สาราคำ หรือ ไพรพนา นายนิสิต สินธุไพร จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ นายสมชาย หรือพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ และนายพายัพ ปั้นเกตุ ที่ถูกเพิ่มชื่อเข้ามาล่าสุด

******
เรื่องเกี่ยวเนื่อง

-จารึกไว้ใต้ZONE TEEN:วัยรุ่นกรี๊ดสรรเสริญ 

-ดีเอสไอเรียก 19 นปช.แจ้งข้อหาคดีล้มเจ้า 2 มิ.ย.นี้

-แผนผังล้มเจ้าระเบิดเวลาโค่นเพื่อไทย
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น