วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ถังดับเพลิง กทม. ทำสูญ 124 ล้านบาท

ถังดับเพลิง กทม. ทำสูญ 124 ล้านบาท


         สมัย 2 ฉลองด้วยถังดับเพลิง! ได้เป็นผู้ว่าสมัยที่ 2 ไม่ทันไร ก็งานเข้า จากกรณี ถังดับเพลิง ที่ทาง กทม. จัดซื้อจำนวน 95,700 เป็นจำนวนเงิน 124 ล้านบาท จู่ๆ ก็เกิดระเบิด คาดว่าเป็นของเก่าเมื่อตอนน้ำท่วม ปลายปี 2554




           เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 เม.ย.56 การประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยที่ 2 ครั้งที่ 1/2556 นายสุธา นิติภานนท์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตภาษีเจริญ ได้เสนอญัตติด้วยวาจา เรื่อง ถังดับเพลิงของ กทม.ที่ติดตั้งในชุมชนรวม 10 กว่าถัง มีการระเบิดโดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อปลายเดือน มี.ค.–ต้นเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา สภาพการระเบิดมีความรุนแรงมาก และไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดจากอะไร ตนจึงเสนอให้มีการเก็บกลับคืนทั้งหมด เพราะหลายจุดมีการติดตั้งอยู่ในโรงเรียน ชุมชน ซึ่งหากเกิดเหตุระเบิดขึ้นจะเกิดการสูญเสียเป็นอย่างมาก จึงอยากให้ผู้บริหารตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 95,700 ถัง งบประมาณการจัดซื้อที่ 124 ล้าน โดยจะนำถังดับเพลิงจากการสุ่ม เขตละ 2 ถังไปตรวจสอบ 



         ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ถังดับเพลิงเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการรับมืออัคคีภัย เหตุการณ์ถังดับเพลิงระเบิดที่เกิดขึ้น เป็นเหตุการณ์ที่ต้องหาสาเหตุที่ชัดเจนให้ได้ และระหว่างที่รอผลสรุปสาเหตุ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน จึงได้สั่งการให้นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกทม. ออกว.8 แจ้งทุกสำนักงานเขต ให้นำถังดับเพลิงชุดดังกล่าวเก็บกลับมาไว้ที่สำนักงานเขตทั้งหมด จนกว่าจะทราบสาเหตุที่แน่ชัด พร้อมได้ให้พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าฯกทม. ตรวจสอบหาสาเหตุโดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัย 




          ทั้งนี้เหตุการณ์ถังดับเพลิงระเบิดที่เกิดขึ้นนั้น ทางปลัด กทม.ได้มีคำสั่งให้มีการสุ่มตรวจถังดับเพลิง 100 ถัง จาก 50 เขตส่งให้ สมก.ตรวจสอบสาเหตุ และได้สอบถามจากบริษัทผู้ผลิตโดยเบื้องต้นสันนิษฐานว่า สาเหตุจากในช่วงที่มีการผลิตถังดับเพลิงเป็นช่วงน้ำท่วมเมื่อปลายปี 54 สารเคมีในถังอาจได้รับความชื้นและเกิดการขยายตัว หากสาเหตุมาจากความบกพร่องของบริษัทก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมด




         ถังดับเพลิงล๊อตที่มีปัญหามีเลขการผลิต 331/54 หน้าถัง มีโลโก้กทม.สกรีนคำว่า งบ กทม.ปี2554 ผลิตและจัดจำหน่ายโดยบริษัท บีแอนด์บี เมดิค เทรดดิ้ง จำกัด โดยมีหมายเลขมอก.TIS 332-2537 ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถเก็บถังดังกล่าวในเขตดอนเมืองร้อยละ 70 โดยรวบรวมไว้ที่เต้นท์ในสำนักงานเขต มีการคัดแยกถังที่มีเกณฑ์ระเบิดเตรียมส่งคืน 81 ถัง ส่วน 342 ถัง อยู่ในเกณฑ์รับรองความปลอดภัย


        และจากการสอบถามหน่วยอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ก็ทราบว่าได้รับการแจกถังดับเพลิงล๊อตดังกล่าวเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ขณะนี้อายุการใช้งานยังไม่ถึงปีแต่ถังบางส่วนมีสภาพชำรุด ส่วนจุดสังเกตง่ายๆ ว่าถังดับเพลิงใดเป็นล๊อตที่มีปัญหานั้น สามารถตรวจสอบได้จากมาตรวัด ตัวถังและแฮนด์จับที่มีสีแดงแตกต่างจากล๊อตปี 2552 ที่มีสีดำ

          สาเหตุถังดับเพลิงของกรุงเทพมหานครระเบิด ในมุมมองของนายสวัสดิ์ เจริญวรชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านอัคคีภัยที่มีประสบการณ์มานานกว่า 40 ปี ที่ได้ประเมินข้อมูลให้ มีด้วยกัน 2 ข้อ คือ ความหนาของเหล็กตัวถัง และส่วนเกยเชื่อมไม่ได้มาตรฐาน ข้อที่ 2 คือสารเคมีมีความชื้นก่อนบรรจุในถังดับเพลิงจนก่อให้เกิดปฏิกิริยาสร้างแรงดันภายใน 




         นายวิรัตน์ อาชาอภิสิทธิ์ รองเลขาธิการ สมอ. ตั้งข้อสังเกตเรื่องตัวถังดับเพลิงที่มีการฉีดขาด และมีรูทะลุ ว่าเบื้องต้นน่าจะเกิดแรงดันภายในมากกว่า 1,000 ปอนด์ต่อตารางนิ้วและประกอบกับความหนาของถังที่อาจจะไม่ได้มาตรฐาน แต่ต้องรอผลการตรวจสอบก่อน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แน่ชัด แต่ทั้งนี้ตามมาตราฐานที่กำหนดไว้ให้ถังดับเพลิงทุกขนาดมีความหนาไม่น้อยกว่า 0.6 มิลลิเมตร 

         ส่วนข้อสังเกตความยาวของส่วนเกยเชื่อมที่มีความยาวเพียง 8 มิลลิเมตร ไม่ถึงเกณฑ์ 12 มิลลิเมตรตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมฉบับที่ 1970 ปีพุทธศักราช 2537 ทางสมอ. กล่าวว่าไม่ผิดมาตรฐาน เนื่องจากลักษณะการเชื่อมรอยในประกาศมี 5 แบบ ที่แตกต่างกัน แต่ข้อสังเกตที่พบคือลักษณะรอยเชื่อม มีข้อบกพร่องเพราะเนื้อเหล็กยังเชื่อมไม่เป็นเนื้อเดียวกัน จึงสันนิษฐานว่าทางผู้ผลิตใช้เครื่องเชื่อมอัตโนมัติ 


         ส่วนความคืบหน้าการสุ่มตรวจสอบถังดับเพลิงที่กรุงเทพฯได้ส่งตัวอย่างมาให้ตรวจสอบจาก 50 เขตๆ ละ 2 ถังรวม 100 ถัง เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ขณะนี้สมอ. ได้ส่งให้ 2 หน่วยงานทำการตรวสอบ คือกรมวิทยาศาสตร์บริการและสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย โดยจะต้องตรวจสอบคุณลักษณะถัง และสารเคมีตามมาตรฐาน มอก. โดยใช้เวลาตรวจสอบ 120

          จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าถังดับเพลิงที่ระเบิด ตัวถังมีการฉีกขาดตามรอยต่อของถัง แยกเป็น 2-3 ส่วน ส่วนสารเคมีที่อยู่ด้านในก็จับตัวแข็งเป็นก้อน ซึ่งเป็นลักษณะของสารเคมีที่เสื่อมคุณภาพ ทำให้การถ่ายสารเคมีเพื่อป้องกันถังระเบิดนั้นต้องใช้ค้อนกระเทาะตัวถัง เพื่อให้สารเคมีคลายการเกาะตัว และเบื้องต้นก็ได้มีการนำสารเคมีดังกล่าวไปตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุต่อไป

          ถังดับเพลิงขนาดมาตรฐานบรรจุ 10 ปอนด์ปกติที่ กทม.ให้ กองทะเบียนทรัพย์สิน เป็นผู้จัดซื้อเป็นประจำเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชน แต่พอมาในยุคของ ผู้ว่าฯ คุณชาย 1 ก่อนครบวาระได้มีการ จัดซื้อถังดับเพลิง เปลี่ยนสเป็คจาก ขนาดบรรจุ 10 ปอนด์มาเป็นขนาดบรรจุ 20 ปอนด์ และการจัดซื้อครั้งนี้มีจำนวนถึง 97,000 ถัง ใช้งบประมาณถึง 120 ล้านบาท เป็นการจัดซื้อล็อตใหญ่ที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีการจัดซื้อ เป็นที่รู้กันดีในหมู่ผู้ค้าถังดับเพลิงว่าผู้ผลิตจำหน่ายถังดับเพลิงถังใหญ่ขนาดนี้ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานมีไม่กี่ราย กำลังการผลิตก็มีไม่มากนักจึงมีผู้ผลิตที่มีคุณภาพและไม่มีคุณภาพพอเกิดระเบิดก็เลยโทษว่าเพราะอากาศร้อน...หลังจาก ถังดับเพลิงระเบิด ขึ้นมา กทม.ได้มีคำสั่งให้เก็บถังดับเพลิง ล็อตนี้ แล้วให้นำมา เก็บไว้ที่สำนักงานเขต ก็เลยทำให้สำนักงานเขตต่างๆ ตอนนี้กลายเป็นคลังแสงขนาดย่อมๆ ไปโดยปริยาย ทำเอาทั้งข้าราชการและประชาชนที่ต้องไปติดต่อราชการต่างอกสั่นขวัญแขวนไปตามๆ กัน ไม่รู้จะระเบิดขึ้นมาอีกเมื่อไหร่... 

          เรื่องของถังดับเพลิงที่ระเบิดก็มี ผู้เชี่ยวชาญ ท่านหนึ่ง รศ.ดร.สุรชัย รดากร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิศวกรรมป้องกันภัยอัคคีภัยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มากล่าวว่ากรณีที่ถังดับเพลิงจะระเบิดได้เกิดความบกพร่องได้จาก 2 กรณี จาก สารเคมี กรณีที่หนึ่งสารเคมีที่ผู้ผลิตใส่ในถังเป็นสารที่ผิดปกติจากที่ใช้ ความร้อนที่ทำให้สารเคมีเกิดการระเบิด จะต้องมีความร้อนสูงถึง 45 องศาเซลเซียสขึ้นไป ประเด็นนี้ตัดทิ้งไปเพราะอากาศใน กทม.ยังไม่เคยสูงถึง 45 องศา การอัดก๊าซหรือสารลงไปในปริมาณมากกว่าระดับความแรงดัน ส่วนกรณีที่สองถังบรรจุไม่ได้มาตรฐาน...เมื่อรู้สาเหตุกันชัดๆ อย่างนี้แล้วก็ ควรจะสอบหาความจริงกันได้แล้ว ว่า ข้อกำหนดรายละเอียดของถังดับเพลิงนี้คณะกรรมการออกข้อกำหนดในการจัดซื้อครั้งนี้มีการออกข้อกำหนดฯ ที่เป็นไปตามระเบียบราชการหรือไม่ ถังดับเพลิงที่จัดซื้อล็อตนี้เหมาะสมหรือไม่ การจัดซื้อครั้งนี้คุ้มค่าหรือไม่ การดำเนินการจัดซื้อมีการสมยอมเสนอราคาหรือไม่ ถังดับเพลิงขนาดบรรจุ 20 ปอนด์ ซึ่งมีน้ำหนักมาก บุคคลธรรมดาหรือประชาชนที่ได้รับแจกสามารถจะยกไปใช้งานได้อย่างสะดวกหรือไม่ เพราะถ้าดูจากน้ำหนักเชื่อว่าคนที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีก็ยังยากเพราะของมันหนักเกินไป.




          แค่คุณชายหมู ผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ บริพัตร เข้ารับตำแหน่งผู้ว่าฯ สมัย 2 ไม่ทันข้ามเดือนข้ามปีเรื่องอื้อฉาวต่างทยอยออกมารับน้องใหม่ซะแล้ว ก็เลยอดเป็นห่วงไม่ได้ว่าจะทานทนกับเรื่องอื้อฉาวทุจริตคอรัปชั่นได้มากน้อยแค่ไหน คงเป็นหนังยาวให้ได้ติดตามดู นี่เพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น....ยังกลิ่นโชยซะขนาดนี้เลย.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น