วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2554

ความผิดฐานฆ่าคนตามกฏหมายอังกฤษ

            http://forum1.arinwan.com/index.php?topic=1941.msg3052#msg3052


ตามกฎหมายอังกฤษ ความผิดฐานฆ่าคน (Homicide)  แบ่งออกได้เป็น Murder  (ฆ่าโดยเจตนา) Manslaughter (ฆ่าโดยไม่เจตนา โดยประมาท และโดยถูกยั่วโทษะ)  Suicide (ฆ่าตัวเอง)  และ  Infanticide (ฆ่าบุตรขณะยังเป็นทารก)

               1.   ความผิดฐานฆ่าโดยเจตนา  เดิมมีโทษสถานเดียวคือประหารชีวิต ต่อมา เมื่อ พ.ศ. 2500 มีกฎหมายออกมา 1 ฉบับ คือ Homicide Act, 1957    แก้ไขโทษความผิดฐานฆ่าโดยเจตนา    ลงเพียงจำคุกตลอดชีวิตเท่านั้น    เว้นแต่ความผิดฐานฆ่าด้วยเหตุฉกรรจ์ (Capital Murder)  จึงยังคงมีโทษประหารชีวิตอยู่


               หลักเกณฑ์    ความผิดฐานนี้คล้ายคลึงกับของไทยเรา   ผิดกันในข้อสำคัญ   คือ   ผู้ฆ่าจะต้องมีเจตนาชนิดที่เรียกว่า  Malice aforethought   และ  การตายจะต้องอยู่ในระยะเวลา 1 ปี กับ 1 วันนับตั้งแต่วันทำผิด มีข้อที่แปลกอีกอย่างหนึ่งก็ คือ ผู้ตายจะต้องอยู่ใน King’s   หรือ  Queen’s Peace  คือ เป็นผู้ที่ได้รับ การคุ้มครองจากพระเจ้าแผ่นดินของอังกฤษ   ดังนั้น  การฆ่าข้าศึก ของอังกฤษในยามสงครามจึงไม่เป็นความผิดฐานฆ่าคน  แต่การฆ่าเชลยศึกโดยไม่ชอบก็ดี  และ การที่คนอังกฤษฆ่าผู้อื่นนอกราชอาณาจักรอังกฤษก็ดี ก็ยังเป็นผิดฐานฆ่าคนตามกฎหมายอังกฤษและพิจารณาพิพากษาคดีในศาลอังกฤษได้อยู่


               เจตนาที่เรียกว่า  Malice aforethought  นั้นหมายถึง  (ก)  เจตนาที่จะฆ่าหรือจะก่อให้เกิดอันตรายสาหัสแก่ร่างกายของผู้อื่น (ข)  รู้หรือควรจะรู้ว่าการกระทำของตนจะทำให้ผู้อื่นตายหรือเป็นอันตรายสาหัสแก่ร่างกาย (ค) เจตนาที่จะทำผิดฐาน felony โดยใช้กำลังและเกิดการตายจากการใช้กำลัง  (act of violence) นั้น (ง) เจตนาที่จะต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานตำรวจผู้ทำการตามหน้าที่ หรือราษฎรซึ่งช่วยเหลือเจ้าพนักงานดั่งกล่าว  แต่ตาม  Homicide Act, 1957 เจตนาสองประการหลังไม่ถือว่าเป็น Malice aforethought และไม่ทำให้ผู้ทำผิดดังว่านี้มีผิดฐานฆ่าโดยเจตนา  ดังนั้นคำว่า  Malice aforethought  ในขณะนี้จึงหมายถึงเจตนาในข้อ  (ก)  และ  (ข)  เท่านั้น


                ความผิดฐานฆ่าคนด้วยเหตุฉกรรจ์ซึ่งมีโทษประหารชีวิตสถานเดียวนั้น ได้แก่ (ก) การฆ่าในขณะหรือเป็นผลเนื่องจากการลักทรัพย์ (ข) การฆ่าโดยใช้ปืนยิงหรือก่อให้เกิดการระเบิด (ค) การฆ่าในขณะหรือเพื่อประสงค์จะต่อสู้หลีกเลี่ยง ขัดขวางการจับกุมโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือ ช่วยให้พ้นจากคุมขังที่ชอบด้วยกฎหมาย  (ง)  การฆ่าเจ้าพนักงานตำรวจผู้ทำการตามหน้าที่  หรือบุคคลผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานดั่งกล่าว  (จ)  การฆ่าเจ้าพนักงานเรือนจำผู้กระทำการตามหน้าที่หรือบุคคลผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานนั้น  แต่ผู้กระทำผิดจะต้องเป็นนักโทษ อยู่ในขณะทำผิด


               ตั้งแต่เริ่มใช้  Homicide Act, 1957 มา เพิ่งจะมีคำพิพากษาของศาลอังกฤษให้ประหารชีวิตจำเลย ซึ่งฆ่าตำรวจเป็นครั้งแรกในเดือน  เมษายน  2502  นี้เอง  แต่มีผู้แทนราษฎรร้อยกว่าคน  และราษฎรอีกหลายพันคนลงชื่อยื่นเรื่องราวขอลดโทษให้จำเลย เรื่องราวนี้ต้องยื่นต่อ  Home Secretary  (คล้ายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของเรา)  ถ้า Home Secretary เห็นควรลดโทษก็จะต้อทูลเกล้า ฯ ถวายความเห็นต่อ พระบาทสมเด็จพระบรมราชินี  เพื่อ ขอพระราชทานอภัยโทษต่อไป  เฉพาะ จำเลยคดีนี้ยังไม่ทราบผลว่าจะได้รับการลดโทษหรือไม่


               2.   ความผิดฐาน Manslaughter ความผิดฐานนี้ถ้าเทียบกับของไทยเราแล้ว ย่อมรวมถึงความผิดทั้งที่ฆ่าโดยไม่เจตนา ฆ่าโดยถูกยั่วโทษะถึงขนาด  และ ฆ่าโดยประมาทด้วย อัตราโทษอย่างสูงถึงจำคุกตลอดชีวิต


               การฆ่าโดยไม่เจตนา  หลักเกณฑ์ไม่ต่างกับกฎหมายของเรา แต่การฆ่าโดยถูกยั่วโทษะนั้น การยั่วโทษะจะเกิดจากการกระทำหรือคำพูดก็ได้  แต่ต้องถึงขนาดที่ทำให้   บุคคลผู้มีสติสัมปชัญญะตามธรรมดาขาดการยับยั้งชั่วใจตนเอง  การวินิจฉัยเหตุยั่วโทษะนี้ เป็นหน้าที่ของลูกขุนที่จะชี้ว่าถึงขนาดหรือไม่ ถ้าไม่ถึงขนาดก็เป็นความผิดฐานฆ่าโดยเจตนาไป


               สำหรับการฆ่าคนโดยประมาทนั้น   มีได้ทั้งการละเว้น ไม่กระทำการ  ตามที่กฎหมายอาญาบัญญัติไว้  เช่น  ละทิ้งเด็ก หรือไม่จัดการรักษา  ความเจ็บไข้ของบุตรตามสมควร และเด็กตายเนื่องจากการละทิ้งหรือเพิกเฉยนั้น และมีได้ทั้งการกระทำสิ่งที่ไม่ผิดกฎหมาย หากแต่   ทำด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง   เช่น  หมอผ่าตัดคนไข้โดยเลินเล่อลืมกรรไกรไว้ในท้องคนไข้  จึงเป็นเหตุให้คนไข้ตายเป็นต้น


               3.   ความผิดฐานฆ่าตัวเอง  มีโทษเช่นเดียวกับความผิดฐาน Manslaughter  ก่อน  Homicide Act,  1957  มีโทษถึงประหารชีวิตโดยถือว่าเป็นการฆ่าโดยเจตนาทีเดียว  จะอย่างไรก็ดีผู้ที่จะรับโทษความผิดสำเร็จในความผิดฐานนี้  จะมีได้แต่เฉพาะในกรณีที่บุคคลหลายคนคบคิดกันฆ่าตัวตายพร้อมกัน  และ ไม่ตายหมดทุกคน ผู้ที่รอดอยู่เท่านั้น จึงจะมีผิดฐานพยายามฆ่าตัวเอง และผิดฐานเป็นตัวการชั้นสองในความผิดฐานฆ่าตัวเองของคนที่ตายและรับโทษเช่นเดียวกับ Manslaughter ถ้าคนเดียวฆ่าตัวตายและตายไปก็ไม่มีทางลงโทษคนตายได้ ถ้าไม่ตายก็เป็นเพียงพยายาม  ซึ่งผิด Misdemeanour เท่านั้ น อนึ่งผู้ที่จะผิดฐานนี้ ต้องทำไปในขณะที่ตนยังมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนดีอยู่


               เกี่ยวกับตัวการและสมรู้นั้น ตามกฎหมายอังกฤษ ต่างกับกฎหมายของเรามาก เฉพาะตัวการเขาแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ตัวการชั้นหนึ่ง  (Principal in the first degree และตัวการชั้นสอง (Principal in the second degree) ตัวการชั้นหนึ่ง คือผู้ที่ทำผิดโดยตรงหรือให้ผู้อื่นทำแทน  โดยผู้อื่นนั้นไม่รู้ว่าตนทำผิด เช่น ก. เอายาพิษใส่ถ้วยน้ำให้ ข. ซึ่งไม่รู้ว่ามียาพิษอยู่ในน้ำไปให้ ค. ดื่ม ตัวการชั้นสองคือผู้ที่มิได้ทำผิดโดยตรง แต่อยู่ในขณะที่มีความผิดเกิดขึ้น และได้ช่วยเหลือตัวการชั้นหนึ่งนั้นด้วย ความผิดตามที่กล่าวนี้จะต้องเป็นความผิด felony  เท่านั้น  ถ้าเป็นความผิดอย่างอื่น  เช่น  Misdemeanour  ไม่มีผิดฐานเป็นตัวการชั้นหนึ่งหรือชั้นสอง (อย่างไรเป็นความผิด felony หรือ  misdemeanour  นั้นกฎหมายบัญญัติไว้เช่นลักทรัพย์เป็น  felony  ฉ้อโกงหรือยักยอกเป็น  Misdemeanour  เป็นต้น กล่าวโดยย่อ felony มักจะมีโทษแรงกว่า  แต่ไม่เสมอไป  และ ถือว่าเป็นความผิดที่ร้ายแรงกว่า Misdemeanour)


               ผู้สมรู้ก็แบ่งเป็นผู้สมรู้ก่อนความผิด  (Accessory before the fact)  และผู้สมรู้หลังความผิด (Accessory before the fact) ผู้สมรู้ก่อนความผิดคือผู้ที่จัดหา แนะนำ  สั่งบังคับ หรือยุยงให้ผู้อื่นทำผิด  แต่ตัวเองมิได้อยู่ในขณะทำผิดด้วย  ผู้สมรู้หลังความผิด คือ ผู้ที่รู้อยู่แล้วว่ามีความผิดเกิดขึ้นและได้รับ  ช่วยเหลือ  แก่ผู้ทำผิดนั้น ความผิดที่ว่านี้ก็ต้องเป็น felony เช่นกัน


               โดยที่ตัวการต้องรับผิดในความผิดที่เกิดขึ้นด้วย   ฉะนั้นขโมยที่ลักทรัพย์มาแล้วเอาไปขายให้ผู้อื่น จึงต้องมีผิดฐานเป็นตัวการชั้นสอง ในความผิดฐานรับของโจรของบุคคลอื่นนั้นอีกฐานหนึ่งด้วย


               4.   ความผิดฐานฆ่าบุตรขณะยังเป็นทารก  (Infanticide)  ความผิดฐานนี้ต้องกระทำโดยมารดาของเด็ก  (ถ้าทำโดยบิดาก็ผิดฐานฆ่าโดยเจตนา) และเด็กอายุต่ำกว่า 12 เดือน ทั้งขณะทำผิดหญิงนั้นต้องมีจิตใจไม่ปกติ อันเนื่องมาจากการคลอดบุตรนั้นด้วย โทษของความผิดฐานนี้ ชั้นสูงถึงจำคุกตลอดชีวิต


               นอกจากนี้ยังมีความผิดฐานทำลายชีวิตเด็ก  และ ความผิดฐานขับรถชนคนตายอีก ความผิดฐานทำลายชีวิตเด็กนั้นจะต้องเป็นเด็กที่สามารถคลอดมามีชีวิตรอดอยู่ และ ผู้ทำผิดจะต้องมีเจตนาทำลายชีวิตเด็กนั้น และ ได้ทำให้เด็กนั้นตายก่อนคลอด อัตราโทษความผิดฐานนี้ถึงจำคุกตลอดชีวิต  ส่วนความผิดฐานขับรถชนคนตายนั้น  เป็นความผิดเกิดจากขับรถโดยประมาท  หรือ ด้วยความเร็วสูง หรือในลักษณะที่จะเกิดอันตรายแก่ประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี


               ความผิดทางอาญาของอังกฤษ     มีบัญญัติไว้กระจัดกระจายตามพระราชบัญญัติต่าง ๆ   เช่น  Murder, manslaughter  และ suicide   รวมอยู่ในพระราชบัญญัติฉบับหนึ่ง  Infanticide  อีกฉบับหนึ่ง  Child destruction  อีกฉบับหนึ่งเป็นต้น และมีความผิดอีกมากที่เป็นผิดตามคอมมอนลอว์  (คือขนบธรรมเนียมที่ใช้กันแพร่หลาย และ ได้รับการยอมรับโดย คำพิพากษาของศาล  ซึ่งมีผลบังคับเช่นเดียวกับพระราชบัญญัติเหมือนกัน)   ความผิดบางอย่างก็ผิดทั้ง  คอมมอนลอว์  และ พระราชบัญญัติ  เช่น ความผิดฐานจลาจล  (Riot) เป็นผิดทั้งตามคอมมอนลอว์ และตาม  Riot Act, 1714  ผิดกันแต่ว่าตามคอมมอนลอว์ถือเอาบุคคลตั้งแต่ 3 คน  เป็นเกณฑ์ ตามพระราชบัญญัติถือเอาบุคคลตั้งแต่ 12 คนขึ้นไป และต้องมีการอ่าน หรือพยายามที่จะอ่านประกาศของพระราชบัญญัติฉบับนั้นให้ฟังเสียก่อน ผู้ที่ยังมั่วสุมอยู่ภายหลังการอ่านหรือพยายามอ่านหนึ่งชั่วโมงจึงจะมีผิด และอัตราโทษตามพระราชบัญญัติหนักกว่าตามคอมมอนลอร์


               ข้อที่แปลกสำหรับความผิดทางอาญาของอังกฤษ ก็คือ ผู้แพ้คดี  (บางประเภท) ไม่ว่าจะเป็นโจทก์หรือจำเลยจะต้องเสียค่าธรรมเนียมให้ฝ่ายที่ชนะตามที่ศาลกำหนดอีกด้วย


 แหล่งที่มา : บัญญัติ สุชีวะ ธรรมศาสตร์บัณฑิต เนติบัณฑิตอังกฤษ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะฎีกา
                                www.lawonline.co.th 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น