วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554


โต๊ะกลมระดมความคิด

เหตุผลเสือลำบาก-เสือรับบาปกับแพะรับบาป
ความจริงที่ทับซ้อน

http://www.dailyworldtoday.com/columblank.php?colum_id=51625

โต๊ะกลมระดมความคิด
         จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
         ปีที่ 12 ฉบับที่ 3036 ประจำวัน พุธ ที่ 20 เมษายน 2011
         โดย ดุษฏี ศรียะลา

สถานการณ์ที่ผ่านมาสำหรับอุทกภัยซึ่งถล่มภาคใต้จนน่วม ถ้าเราตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร พยายามหาสาเหตุกับคำตอบที่แท้จริง คนส่วนใหญ่รวมทั้งสื่อสารมวลชนก็คงไหลกระแสความเชื่อของตัวเองให้ลงไปที่ “ปัญหาโลกร้อน” เรื่องของโลกร้อนจึงตกเป็นจำเลยที่ 1 ทันที?

แต่ถ้าเราค่อยๆหาเหตุผลซึ่งเป็นปัจจัยอันก่อให้เกิดอุทกภัยใหญ่หลวงนั้น ก็สามารถหาตัวจำเลยหรือคำตอบได้มากกว่าการเอากำปั้นทุบดินไปลงโทษ “โลกร้อน” เพียงสถานเดียวเท่านั้น กล่าวเช่นนี้คงเป็นการสื่อความหมายให้เห็นด้านหนึ่งของปัญหาโลกร้อน ซึ่งสามารถถูกสร้างให้กลายเป็นเพียง “แพะรับบาป” เพราะเมื่อมีการเจาะไชข้อมูลไปรอบๆด้าน

อาจจะหยิบเอาวงเสวนา ซึ่งจัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยชีวิตนครศรีธรรมราช ตำบลท่าเรือ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช มีการสรุปเกี่ยวกับปรากฏการณ์อุทกภัยในภาคใต้นั้น มีสาเหตุมากมายหลายประการซึ่งทำให้ “เมืองคอน” ต้องจมอยู่ใต้บาดาล มีทั้งกรณีบุกรุกทำลายธรรมชาติ ไร้แผนวางผังเมือง ไม่ควบคุมการทำการเกษตร นายทุนอิทธิพลจับมือกับข้าราชการบุกรุกที่ดินเพื่อทำเหมืองแร่บนภูเขา?

นี่เป็นการสรุปเพียงปัญหาอันเป็นสาเหตุทำให้เมืองจมบาดาลที่จังหวัดนครศรีธรรมราชเพียงจังหวัดเดียวเท่านั้น ยังไม่ได้แตกหัวข้อเพื่อไปหาคำตอบในจังหวัดอื่น ๆ

เมื่อมองอย่างเป็นเหตุเป็นผล ใช้ระบบคิดที่เป็นวิทยาศาสตร์จริงๆ ประเด็นของโลกร้อนอาจจะมีความสำคัญเรียงเป็นเหตุผลลำดับต้นๆ แต่สาเหตุข้ออื่นๆนั้นยิ่งกลายเป็นตัวเสริมจนขับเน้นเรื่องของโลกร้อนให้ถูกเข้าใจกลายเป็นสาเหตุที่สร้างความเดือดร้อนขึ้นมา ?

โลกร้อนซึ่งส่งผลทำให้ธรรมชาติมีลักษณะผิดฝาผิดตัว ข้อนี้เราคงไม่ปฏิเสธสำหรับเงื่อนไขซึ่งผลักดันบรรยากาศทั่วไปให้ผิดแผกฤดูกาล แต่คงไม่เป็นธรรมมากนักถ้าจะไปลงโทษเอาป้ายแขวนคอให้แก่ “โลกร้อน” เพราะนั่นเท่ากับเป็นการปฏิเสธความจริงอันเป็นสาเหตุอื่น ๆ

ชาวใต้ซึ่งอายุอยู่ในเกณฑ์ผู้เฒ่า ทุกคนยืนยันว่า “ฝนที่ตกหนักสักเพียงไรถ้าหากไม่มีปัจจัยเสริม ทั้งการบุกรุกทำลายป่าไม้ ทำลายหน้าดินจากกิจกรรมเหมืองแร่ ไม่มีประสิทธิภาพสำหรับควบคุมวางแผนการทำเกษตรกรรม รวมทั้งไร้ผังเมือง...
หากไม่มีปัจจัยเหล่านี้ที่ลุกลามในขั้นวิกฤต ปริมาณฝนตกแม้จะหนักเท่านี้ย่อมไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้นสำหรับการระบายน้ำ”

โดยเฉพาะในเรื่องของผังเมืองที่ปล่อยให้ก่อสร้างและพัฒนาไปอย่างสะเปะสะปะ นี่เป็นเรื่องที่ใหญ่โตยิ่งกว่าปัญหาโลกร้อนเสียอีก เนื่องจากเป็นอุปสรรคที่สร้างขึ้นแล้วไปกีดขวางทางระบายน้ำจนเต็มไปหมด ผังเมืองตามยถากรรมแบบนี้เองเลยกลายเป็นตัวส่งเสริมให้หลายเมืองต้องเปลี่ยนเป็นเมืองบาดาลในที่สุด!

มิใช่เพียงนครศรีธรรมราชเท่านั้น สาเหตุคล้ายกันยังเห็นได้ทั้งจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ชุมพร หรือกระบี่ เพราะพื้นที่ในภาคใต้แม้จะยาวไปตามรูปด้ามขวาน หากแต่ “แคบ” จากจุดต้นน้ำหรือบริเวณแหล่งฝนตกหนักเป็นระยะทางที่สั้นๆเท่านั้นเอง ปริมาณน้ำทั้งหมดย่อมไหลลงสู่ท้องทะเลได้ภายในเวลาอันรวดเร็วมาก

ถนนหนทางที่สร้างกันเป็นใยแมงมุม กลายเป็นตาข่ายซึ่งกั้นทางระบายน้ำ กีดขวางการไหลลงสู่ทะเล นี่ควรเป็นสาเหตุหลักที่จำเป็นต้องหยิบยกเอามาเป็นวาระหรือปัญหาที่แท้จริง มิใช่คิดคำตอบแก้ตัวแบบสั่วๆ โยนข้อหาให้ “วิกฤตโลกร้อนรับผิดชอบไป ส่วนองค์กรหรือสถาบันที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาที่สะเปะสะปะ ไม่มีผังเมือง-การวางแผนในภาพรวม กลับลอยตัวอยู่เหนือปัญหา?

เบื้องลึกที่ควรจะสะท้อนจึงควรโยนความรับผิดชอบลงไปที่การพัฒนาสาธารณูปโภคและสาธารณูปการที่ขาด “สายตาและความเข้าใจในภาพรวม” เนื่องจากเช่นนี้เองมันถึงเชื่อมโยงมาจาก “แผนพัฒนาและผังเมืองที่ไร้ประสิทธิภาพ หรืออาจพูดว่าใช้ไม่ได้เอามากๆ”

สำหรับความรับผิดชอบอย่างถึงที่สุดน่าจะเป็นจำเลยที่ 1 เห็นจะไม่ใช่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เราต้องโยนเรื่องพวกนี้ให้เป็นความบกพร่องของกลไกรัฐโดยตรง นอกจากนั้นเห็นจะเป็น “รัฐบาล” ที่จะบ่ายเบี่ยงและปฏิเสธความจริงหรือความรับผิดชอบทั้งหมดไม่ได้?

กรณีน้ำท่วมภาคใต้เป็นเพียงตัวอย่างเดียวที่ชี้ให้เห็นถึงวิกฤตหรือสภาพของปัญหาบางอย่าง มันไม่ได้เกิดขึ้นมาจากสาเหตุ “เดียวโดดๆ” ดังเราสามารถพิสูจน์ได้อย่างเป็นรูปธรรมกับปรากฏการณ์น้ำท่วมหนักในจังหวัดภาคใต้คราวนี้...
ดังนั้น ถ้ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นจำเป็นที่จะต้องสอดส่องแล้วมองให้รอบด้านเสียก่อน เพื่อค้นหาสาเหตุต้นตอ ซึ่งอาจจะทับซ้อนกันอยู่ ใครไม่สังเกตก็อาจมองข้ามและไม่เข้าใจ เกิดทึกทักเชื่อไปตาม “ยุทธการปล่อยข่าวสาร” ที่มีโอกาสสร้างสาเหตุบิดเบือน ผลิตข้อมูลเทียมเพียงเพื่อบ่ายเบี่ยงทั้งความผิดและความรับผิดชอบของตัวเอง นี่จึงต้องระวังสำหรับยุทธการบ่ายเบี่ยงแล้วสร้างแพะรับบาปขึ้นมาแทน บางครั้งยังอาจแถมเป็นระดับเสือรับบาปด้วยซ้ำไป ส่วนพวกเสือลำบากที่ควรรับบาปจริงๆก็ลอยตัวพ้นผิด...ปัดสวะไปพร้อมกับสายน้ำ?

*******************************
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น