วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2554

พท.แฉ2กระทรวงใหญ่งาบทิ้งทวนก่อนยุบสภา
http://www.dailyworldtoday.com/newsblank.php?news_id=10121




โฆษกพรรคเพื่อไทยแฉตรวจพบความผิดปรกติในการดำเนินงานของ 2 กระทรวงใหญ่ในช่วงก่อนยุบสภา ระบุไอซีทีเร่งประมูลโครงข่ายโทรศัพท์ 3จีแบบมีเงื่อนงำ ไม่รอฟังผลการตัดสินของศาลปกครอง ตั้งคนของตัวเองเข้ามาเป็นบอร์ดคุมประมูลที่ตั้งราคาสูงถึง 16,920 ล้านบาท ทั้งที่ความจริงมูลค่าโครงการไม่น่าจะเกิน 9,000 ล้านบาทเท่านั้น ขณะที่การโยกย้ายข้าราชการนอกฤดูในกระทรวงมหาดไทยส่อเค้าต่างตอบแทนเมื่อตรวจพบภริยากรรมการ ป.ป.ช. ได้เลื่อนตำแหน่งช่วงเดียวกับที่เริ่มไต่สวนทุจริตจัดซื้อคอมพิวเตอร์ จี้กรรมการ ป.ป.ช. ผู้เป็นสามีลาออกจากประธานอนุกรรมการไต่สวนเพื่อโชว์ความโปร่งใส


นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า หลังจากมีความชัดเจนว่านายกรัฐมนตรีจะประกาศยุบสภาช่วงสัปดาห์แรกของเดือน พ.ค. ทำให้ตรวจพบความไม่ปรกติในการบริหารงานของ 2 กระทรวงใหญ่คือ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และกระทรวงมหาดไทย ที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายดำเนินการแบบทิ้งทวนเพื่อหาผลประโยชน์

“ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยตรวจพบว่ามีการโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัด 12 คน ที่น่าจะเป็นการทำเพื่อเอื้อประโยชน์ในการเลือกตั้ง และการโยกย้ายบางตำแหน่งก็เข้าข่ายเป็นการทำในลักษณะต่างตอบแทนด้วย”

นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า แม้กระทวงมหาดไทยจะออกมาปฏิเสธเรื่องดังกล่าว แต่มีข้อมูลที่น่าสนใจว่าการโยกย้ายครั้งนี้มีการแต่งตั้งให้ภริยาของกรรมการในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คนหนึ่งขึ้นเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดในช่วงเดียวกับที่ ป.ป.ช. ออกหนังสือเรียกนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยข้าราชการในสังกัดรวม 8 คน เข้ารับการไต่สวนเรื่องทุจริตประมูลจัดซื้อคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ด้านทะเบียนราษฎรและใช้ทำบัตรประชาชนวงเงิน 3,490 ล้านบาท

“บังเอิญเกินไปที่นางวารุณี พงศ์ศิวาภัย ภริยาของนายประศาสตร์ พงศิวาภัย กรรมการ ป.ป.ช. ที่เป็นประธานคณะกรรมการไต่สวนเรื่องทุจริตจัดซื้อคอมพิวเตอร์ ได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากหัวหน้าสำนักงานจังหวัดนครปฐมเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ซ้ำยังเป็นการแต่งตั้งโยกย้ายนอกฤดูอีกด้วย” นายพร้อมพงศ์กล่าวและว่า นายประศาสตร์ควรแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการลาออกจากการเป็นประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนเรื่องทุจริตจัดซื้อคอมพิวเตอร์ของกระทรวงมหาดไทย เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาว่าเป็นเรื่องต่างตอบแทน

โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงไอซีทีตรวจพบว่ามีการตั้งคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) ใหม่แล้วประมูลโครงข่ายโทรศัพท์ 3จี มูลค่ากว่า 16,290 ล้านบาท

“บอร์ดชุดเก่าที่ลาออกไปเพราะเห็นว่าการประมูลเข้าข่ายผิดกฎหมายไม่สามารถทำได้ และเรื่องยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองที่ผู้ประกอบการไปยื่นฟ้องเอาไว้ แต่นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที กลับตั้งนายบุญมาก ศิริเนาวกุล อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เข้าเป็นบอร์ด และเป็นที่คาดกันว่านายบุญมากจะได้เป็นประธานบอร์ดคุมประมูลโครงข่าย 3จี”

นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า เคยเรียกร้องต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก่อนหน้านี้แล้วว่าในช่วงที่รอเวลายุบสภารัฐบาลไม่ควรอนุมัติโครงการใหม่หรือเปิดประมูล เพราะจะทำให้มีข้อสงสัยในเรื่องผลประโยชน์ เนื่องจากบริษัทเอกชนที่เชี่ยวชาญเรื่องโครงข่ายโทรศัพท์ให้ข้อมูลกับพรรคเพื่อไทยว่าโครงข่ายนี้มีมูลค่าจริงไม่น่าจะเกิน 9,000 ล้านบาท แต่กลับจะประมูลกันในราคา 16,920 ล้านบาท จึงน่าจะมีความไม่ชอบมาพากลในการดำเนินโครงการอย่างแน่นอน*

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น