วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2554

ไอ้ลม ต......เหม็นๆ มันออกมาพูดแบบนี้
“ยุบสภาไม่มีเลือกตั้ง”
http://www.internetfreedom.us/thread-18345-post-188824.html#pid188824

ผมเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่คงจะคิดเหมือนผม "สภา...แบบนี้ อย่ามีเสียเลยดีกว่า" สภาแบบนี้จะนำประเทศไทยไปสู่ความหายนะในอนาคตแน่นอน เป็นได้อย่างไร รัฐมนตรีที่ถูกกล่าวหาทุจริตคอรัปชันมากที่สุด กลับได้คะแนนไว้วางใจสูงสุดจาก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล สูงกว่า นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เสียอีก

เป็นการ ตบหน้าคนไทยทั้งประเทศ ตบหน้าระบอบประชาธิปไตยไทย เพื่อบอกให้คนไทยทั้งประเทศรู้ว่า ระบอบประชาธิปไตยเมืองไทยอยู่ในอุ้งมือใคร

ถ้าประชาธิปไตยของคนไทย ทุกคนจะต้องไปอยู่ในอุ้งมือของใครสักคน ผมว่าไปอยู่ใน "อุ้งมือทหาร" ของทหารที่หวังดีต่อชาติ บ้านเมือง ให้รู้แล้วรู้รอด ยังดีกว่าไปอยู่ในอุ้งมือของนักการเมืองที่ไม่หวังดีต่อบ้านเมือง

ผม ไม่รู้ว่า นายกฯอภิสิทธิ์ ซึ่งได้รับการศึกษาชั้นสูง สาขาวิชาปรัชญาเศรษฐกิจการเมืองจาก "ออกซ์ฟอร์ด" มหาวิทยาลัยชั้นนำ เมืองผู้ดีอังกฤษ ประเทศแม่แบบประชาธิปไตย ที่ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต คุณธรรม จริยธรรม กลับยอมรับประชาธิปไตยแบบนี้ได้อย่างไร ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ บ้างเลยหรือ

หรือเพราะอยากเป็น "นายกรัฐมนตรี" อย่างที่คนเขาพูดกัน จึงทำให้ยอมทิ้ง "อุดมการณ์ประชาธิปไตยเมืองผู้ดี" ที่ร่ำเรียนมา

มาดูคะแนนมติไว้วางใจกันสักนิด

นายกฯอภิสิทธิ์ ได้ คะแนนไว้วางใจ 249 เสียง ไม่ไว้วางใจ 184 เสียง

แพ้ นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีพาณิชย์ พรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีข่าวเรื่องการประมูลที่ไม่โปร่งใสมากมาย ทั้งเรื่องการประมูลข้าว ประมูลมัน ล่าสุดเรื่องน้ำมันปาล์ม กลับได้คะแนนไว้วางใจสูงสุดถึง 251 เสียง ไม่ไว้วางใจ 186 เสียง มีคะแนนไว้วางใจมากกว่านายกฯอภิสิทธิ์ 2 เสียง

แพ้ ชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งได้ คะแนนไว้วางใจ 250 เสียง ไม่ไว้วางใจ 188 เสียง

ปรากฏการณ์ คะแนนเสียงที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ต้องบอกคนที่สนใจการเมืองก็รู้ได้ว่า เป็นฝีมือของใคร เพื่อแสดงอำนาจให้ นายกฯอภิสิทธิ์ รู้ว่า "ใครอุ้มใคร" และ "ใครคือผู้มีอำนาจตัวจริง" ในรัฐบาล

แต่ที่น่าผิดหวังอย่างยิ่งก็ คือ เสียงตอบของ นายกฯอภิสิทธิ์ กับนักข่าวหลังการลงคะแนนว่า คะแนนที่ต่างกันเป็นเรื่องปกติ และยังยืนยันว่า การชี้แจงของรัฐมนตรีทุกคนสามารถแก้ข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านได้

ฟัง แล้วผมชักอยากสวมวิญญาณ นักการเมืองในสภาฯ ที่ คุณชัย ราชวัตร เขียนในการ์ตูนเมื่อวาน มีสุนัขวิ่งออกจากปากได้ อยากให้ นายกฯอภิสิทธิ์ ไป สาบานที่วัดพระแก้ว ว่า ท่านเชื่อจริงๆหรือว่า ไม่มีการทุจริตในรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย

เมื่อบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ นักการเมืองทุกคนเป็นอย่างนี้ เลือกตั้งไปกี่ครั้งก็เป็นอย่างนี้ ทำให้คนไทยไม่มีทางเลือก เพราะไม่สามารถเลือกคนที่ดี และระบอบประชาธิปไตยที่มีคุณธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์ได้

ทำให้ผม ชักเห็นด้วยกับ "ข้อเสนอ" ที่มีผู้มาเล่าให้ฟังว่า ทางหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหา อนาคตที่ไร้อนาคตของประเทศไทย ไม่ให้จมอยู่กับ "ประชาธิปไตยน้ำเน่า" ที่ไร้อนาคตแบบนี้ จะต้องร่วมมือกัน "รีบิวด์" สร้างประชาธิปไตยขึ้นมาใหม่ ซึ่งไม่ใช่ "การปฏิวัติ" โดยทหาร แต่ใช้กลไกการเมืองที่มีอยู่ เพื่อ "เปลี่ยนผ่าน" ไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่มีคุณธรรม จริยธรรมอีกครั้ง

จะทำได้หรือไม่ผมไม่ทราบ ก็เอามาเล่าสู่กันฟัง หลังจาก นายกฯอภิสิทธิ์ ประกาศ ยุบสภา เรียบร้อยแล้ว
“ก็ ทำให้กลไกการเลือกตั้งไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ เพื่อนำไปสู่การจัดตั้ง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และ รัฐบาลเฉพาะกิจ ขึ้นมา "ปฏิรูป" และ "เปลี่ยนผ่าน" ไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่มีคุณธรรม จริยธรรม”

กระบวน การนี้อาจต้องใช้เวลาบ้าง แต่นี่คือ ฝันอันบรรเจิด ของ ผู้คนที่ผิดหวังกับการเมือง ในยุค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็น นายกรัฐมนตรี.


"ลม เปลี่ยนทิศ"


(ที่มา ไทยรัฐ , 21 มี.ค. 2554 )

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น