วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2554

คำทำนายของพระพุทธเจ้า
http://www.pchannel.org/index.php?name=pitaya&file=readknowledge&id=28
โดย...ดร. พิทยา  พุกกะมาน - อดีตเอกอัคราชทูต


       คำสอนของพระพุทธเจ้าสามารถนำมาใช้ได้ในทุกยุคทุกสมัยเพราะเป็นคำสอนที่อิงธรรมชาติ สอดคล้องกับหลักวิทยาศาสตร์ พิสูจน์ได้  ใช้ได้กับชีวิตประจำวัน ทำให้ผู้ปฏิบัติหลุดพ้นจากความทุกข์  ผู้บริหารประเทศก็สามารถนำเอาหลักธรรมมาใช้เป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายและแผนงานของรัฐบาลเพื่อนำความสุขมาสู่ประชาชนอย่างกว้างขวางและในทุกระดับ  ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ประเทศภูฏาน ซึ่งใช้หลักศาสนาพุทธเป็นแนวทางในการดำรงชีวิตประจำวันและในการบริหารประเทศ  


        แต่ในปัจจุบัน ปรากฏว่า ศาสนาพุทธในประเทศไทยเสื่อมลงมากเพราะพุทธบริษัทไม่ยึดมั่นในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ไม่ตั้งอยู่ในศีลธรรม  อีกทั้งยังเชื่อคำพูดของคนโกงที่ชอบกล่าวคำเท็จ และไม่เคารพหลักธรรมนิยม  ผู้นำของประเทศไม่ใช้หลักธรรมในการบริหารบ้านเมือง เป็นผลให้ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม  การบริหารบ้านเมืองโดยอาศัยคำกล่าวเท็จไม่บังเกิดผลดีต่อประเทศและประชาชนส่วนใหญ่  ประชาชนเดือดร้อนและขาดที่พึ่ง ขาดความหวังในชีวิต


        ทั้งหมดข้างต้นนี้ พระพุทธเจ้าได้เคยทำนายไว้เมื่อหลายพันปีก่อน  จึงถือได้ว่าคำสอนของพระพุทธองค์ไม่ล้าสมัย และสมควรอย่างยิ่งที่พุทธบริษัทจำเป็นต้องนำมาปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อให้หลุดพ้นจากทุกข์และความเดือนร้อนในบ้านเมืองของเรา  อนึ่ง ความเสื่อมของศาสนาพุทธในปัจจุบันทำให้คนไทยบางคนที่ไม่เข้าถึงเก่นของพุทธศาสนา (เพราะมักไปเชื่อคำพูดของนักปลุกระดมที่ไม่มีศาสนา) เข้าใจผิดว่า ศาสนาพุทธสอนให้มนุษย์หลงงมงาย เกียจคร้าน และเป็นตัวถ่วงความเจริญของสังคม  โดยผู้เข้าใจผิดเหล่านั้นไม่ได้คิดในมุมกลับกันว่า มนุษย์ต่างหากที่ทำให้ศาสนาพุทธเสื่อม เพราะมิได้ปฏิบัติตามหลักศาสนาพุทธ โดยมนุษย์บางคนอาศัยพุทธศาสนาเป็นเครื่องมือหากิน ทำให้มนุษย์หลงใหลในไสยศาสตร์และความเชื่อแบบงมงายซึ่งมิใช่เก่นแท้ของพุทธศาสนาแม้แต่น้อย 


         เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าได้เคยตรัสไว้เมื่อหลายพันปีก่อนเป็นจริงทุกอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำทำนายของพระพุทธองค์ได้เกิดขึ้นจริงในประเทศไทยของเรานี้เอง  จึงขอนำคำทำนายของพระองค์ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทางการเมืองและสังคมในประเทศไทยในปัจจุบันมากล่าวดังต่อไปนี้ ด้านสังคม  พระพุทธองค์ได้ทำนายไว้ว่า  “มนุษย์ แม้จะมีอายุเยาว์ก็จะมีราคะ กล้า และสมสู่กันตั้งแต่อายุยังน้อย และจะมีลูกแต่เล็ก ๆ  เหมือนต้นไม้เล็ก ๆ แต่ก็มีผลแล้ว”  คงไม่ต้องอธิบายขยายความอีกแล้ว ว่าสังคมไทยในปัจจุบันเป็นเช่นใด


         ผู้บริหารประเทศ  พระพุทธองค์ได้ทำนายไว้ว่า   “เมื่อผู้มีอำนาจไม่ตั้งอยู่ในธรรม  แทนที่จะยกย่องและมอบหมายหน้าที่ให้กับผู้มีสติปัญญาและมีความรู้  กลับไปมอบยศศักดิ์ให้กับคนหนุ่มที่อ่อนหัดด้อยประสบการณ์  ทำให้ปฏิบัติหน้าที่ไม่ดี  กิจการต่าง ๆ ก็ไม่สำเร็จ  ก็เหมือนใช้โครุ่นมาเทียมแอก  เกวียนก็แล่นไม่ได้  ก็ฉันนั้น”   คำทำนายของพระพุทธองค์นี้ได้ประจักษ์กับคนไทยทุกคนแล้วว่าผู้นำของประเทศไทยในปัจจุบันเป็นเช่นใด



พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้อย่างชัดเจนที่สุดแล้ว          คนเลวขึ้นครองบ้านครองเมือง  พระพุทธองค์ได้ทำนายไว้ว่า    “คนดีทั้งหลายจะสิ้นอำนาจวาสนา คนพาลจะได้เป็นใหญ่เป็นโต  และเมื่อคนมีอำนาจไม่ตั้งอยู่ในธรรม ขาดความเมตตา คอยใช้อำนาจรีดนาทาเร้น หรือติดสินบน  ชาวบ้านชาวเมืองก็จะหนีไปอยู่ตามชายแดนหรือที่อื่น ๆ ทำให้ที่นั้น ๆ มีความมั่นคงเป็นปึกแผ่น”   ยังกับว่าพระพุทธเจ้ากำลังเผ้าดูเหตุการณ์ในบ้านเมืองของเราอยู่อย่างใกล้ชิด และเห็นว่าคนพาลและนักการเมืองที่เนรคุณได้เป็นใหญ่เป็นโตโดยการร่วมมือกับฝ่ายเผด็จการเพื่อแสวงหาอำนาจ   จนผู้รักประชาธิปไตยทนอยู่ไม่ได้ ต้องหลบหนีไปอยู่ตามชายแดนและประเทศเพื่อนบ้าน

         คนหลอกลวงกลับได้ดี   พระพุทธองค์ได้ทำนายไว้ว่า   “คำพูดของคนที่ไม่ควรจะได้รับความเชื่อถือ กลับจะได้รับความเชื่อถือ  โดยเปรียบด้วยคำของคนที่ไม่น่าเชื่อว่ามีน้ำหนักเบาเหมือนกับผลน้ำเต้า ซึ่งปกติจะลอยน้ำ แต่เมื่อพูดแล้วคนเชื่อ คำพูดเหล่านั้นมีน้ำหนัก จึงเปรียบคำพูดนั้นว่ามีน้ำหนัก ราวกับน้ำเต้าที่จมน้ำได้    แต่ถ้อยคำของคนที่ควรได้รับการเชื่อถือ มีน้ำหนัก กลับไม่ได้รับความเชื่อถือ”   ในประเทศไทยนั้น คำพูดเท็จมักจะได้รับความเชื่อถือเพราะคนพูดนั้นมีวาทะศิลปถึงแม้ว่าจะอ่อนประสบการณ์ในด้านบริหารก็ตาม กอรปกับสื่อมวลชนในประเทศไทยส่วนใหญ่ขาดคุณธรรมและจรรยาของการเป็นสื่อ หากินกับผู้มีอำนาจ ปั้นแต่งเรื่องเท็จให้เป็นเรื่องจริงได้ จนประชาชนบางส่วนคล้อยตาม เห็นดีเป็นชั่ว เห็นชั่วเป็นดี


         คนดีต้องหนีไปอยู่นอกประเทศไทย   พระพุทธองค์ได้เคยฝันว่า  ” ฝูงแกะพากันล่าฝูงเสือ และกัดกินทำให้เสืออื่น ๆ สะดุ้งกลัวจนต้องหนีไปแอบซ่อนตัวจากฝูงแกะ”  ความฝันของพระพุทธเจ้าข้างต้นนี้  คือคำทำนายที่ว่า   “คนชั่วหรือคนไม่ดีจะเรืองอำนาจ และใช้อำนาจไม่เป็นธรรม  ทำให้คนดีถูกทำร้ายหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม  ต้องหลบหนีซ่อนตัวจากภัยร้ายเหล่านี้  เปรียบเสมือนเสือซ่อนตัวจากแกะ”       


         คำทำนายของพระพุทธองค์ข้างต้นนี้ช่างสอดคล้องกับสถานการณ์ในประเทศไทยในปัจจุบันเสียเหลือเกิน   นับตั้งแต่มีการก่อรัฐประหารเมื่อปี ๒๕๔๙  ฝ่ายเผด็จการเรืองอำนาจ  และใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรม  กล่าวคือ  ล้มรัฐะรรมนูญของประชาชนและเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ขึ้นมาเองเพื่อรักษาอำนาจของคนเองและพวกพ้อง   อีกทั้งยังจัดตั้งองค์กรอิสระและแต่งตั้งพวกของตนเองให้ดำรงตำแหน่งสำคัญ ๆ ในองค์กรเหล่านั้น รวมทั้งจัดตั้งรัฐบาลที่ประชาชนไม่ยอมรับ กวาดล้างผู้เรียกร้องประชาธิปไตย  แทรกแซงสื่อมวลชน  ริดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน และละเมิดสิทธิมนุษย์ชนอย่างกว้างขวาง  จนทำให้คนดีและผู้รักประชาธิปไตยต้องถูกทำร้ายหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม  คนดีที่เคยบริหารบ้านเมืองจนประสบความสำเร็จต้องหลบหนีออกนอกประเทศและซ่อนตัวจากภัยร้ายในประเทศไทยในยุคเผด็จการ


         ถึงเวลาหรือยังที่ผู้ที่เป็นพุทธบริษัทอย่างแท้จริง หรือผู้ที่นับถือศาสนาอื่น ๆ ที่สอนการทำความดีและหลีกเลี่ยงการทำความชั่วร่วมกันปฏิรูปประเทศไทย เพื่อขจัดคนชั่วและนำคนดีมีความรู้และประสบการณ์กลับเข้ามาบริหารประเทศ เพื่อนำความเจริญรุ่งเรืองกลับมายังประเทศของเรา และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความสุขและความอยู่ดีกินดีกลับมาสู่ประชาชนคนไทยโดยทั่วหน้า
 
    ดร. พิทยา  พุกกะมาน
      อดีตเอกอัครราชทูต


http://www.pchannel.org
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น