คำทำนายของพระพุทธเจ้า | |
http://www.pchannel.org/index.php?name=pitaya&file=readknowledge&id=28 โดย...ดร. พิทยา พุกกะมาน - อดีตเอกอัคราชทูต คำสอนของพระพุทธเจ้าสามารถนำมาใช้ได้ในทุกยุคทุกสมัยเพราะเป็นคำสอนที่อิงธรรมชาติ สอดคล้องกับหลักวิทยาศาสตร์ พิสูจน์ได้ ใช้ได้กับชีวิตประจำวัน ทำให้ผู้ปฏิบัติหลุดพ้นจากความทุกข์ ผู้บริหารประเทศก็สามารถนำเอาหลักธรรมมาใช้เป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายและแผนงานของรัฐบาลเพื่อนำความสุขมาสู่ประชาชนอย่างกว้างขวางและในทุกระดับ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ประเทศภูฏาน ซึ่งใช้หลักศาสนาพุทธเป็นแนวทางในการดำรงชีวิตประจำวันและในการบริหารประเทศ แต่ในปัจจุบัน ปรากฏว่า ศาสนาพุทธในประเทศไทยเสื่อมลงมากเพราะพุทธบริษัทไม่ยึดมั่นในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ไม่ตั้งอยู่ในศีลธรรม อีกทั้งยังเชื่อคำพูดของคนโกงที่ชอบกล่าวคำเท็จ และไม่เคารพหลักธรรมนิยม ผู้นำของประเทศไม่ใช้หลักธรรมในการบริหารบ้านเมือง เป็นผลให้ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม การบริหารบ้านเมืองโดยอาศัยคำกล่าวเท็จไม่บังเกิดผลดีต่อประเทศและประชาชนส่วนใหญ่ ประชาชนเดือดร้อนและขาดที่พึ่ง ขาดความหวังในชีวิต ทั้งหมดข้างต้นนี้ พระพุทธเจ้าได้เคยทำนายไว้เมื่อหลายพันปีก่อน จึงถือได้ว่าคำสอนของพระพุทธองค์ไม่ล้าสมัย และสมควรอย่างยิ่งที่พุทธบริษัทจำเป็นต้องนำมาปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อให้หลุดพ้นจากทุกข์และความเดือนร้อนในบ้านเมืองของเรา อนึ่ง ความเสื่อมของศาสนาพุทธในปัจจุบันทำให้คนไทยบางคนที่ไม่เข้าถึงเก่นของพุทธศาสนา (เพราะมักไปเชื่อคำพูดของนักปลุกระดมที่ไม่มีศาสนา) เข้าใจผิดว่า ศาสนาพุทธสอนให้มนุษย์หลงงมงาย เกียจคร้าน และเป็นตัวถ่วงความเจริญของสังคม โดยผู้เข้าใจผิดเหล่านั้นไม่ได้คิดในมุมกลับกันว่า มนุษย์ต่างหากที่ทำให้ศาสนาพุทธเสื่อม เพราะมิได้ปฏิบัติตามหลักศาสนาพุทธ โดยมนุษย์บางคนอาศัยพุทธศาสนาเป็นเครื่องมือหากิน ทำให้มนุษย์หลงใหลในไสยศาสตร์และความเชื่อแบบงมงายซึ่งมิใช่เก่นแท้ของพุทธศาสนาแม้แต่น้อย เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าได้เคยตรัสไว้เมื่อหลายพันปีก่อนเป็นจริงทุกอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำทำนายของพระพุทธองค์ได้เกิดขึ้นจริงในประเทศไทยของเรานี้เอง จึงขอนำคำทำนายของพระองค์ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทางการเมืองและสังคมในประเทศไทยในปัจจุบันมากล่าวดังต่อไปนี้ ด้านสังคม พระพุทธองค์ได้ทำนายไว้ว่า “มนุษย์ แม้จะมีอายุเยาว์ก็จะมีราคะ กล้า และสมสู่กันตั้งแต่อายุยังน้อย และจะมีลูกแต่เล็ก ๆ เหมือนต้นไม้เล็ก ๆ แต่ก็มีผลแล้ว” คงไม่ต้องอธิบายขยายความอีกแล้ว ว่าสังคมไทยในปัจจุบันเป็นเช่นใด ผู้บริหารประเทศ พระพุทธองค์ได้ทำนายไว้ว่า “เมื่อผู้มีอำนาจไม่ตั้งอยู่ในธรรม แทนที่จะยกย่องและมอบหมายหน้าที่ให้กับผู้มีสติปัญญาและมีความรู้ กลับไปมอบยศศักดิ์ให้กับคนหนุ่มที่อ่อนหัดด้อยประสบการณ์ ทำให้ปฏิบัติหน้าที่ไม่ดี กิจการต่าง ๆ ก็ไม่สำเร็จ ก็เหมือนใช้โครุ่นมาเทียมแอก เกวียนก็แล่นไม่ได้ ก็ฉันนั้น” คำทำนายของพระพุทธองค์นี้ได้ประจักษ์กับคนไทยทุกคนแล้วว่าผู้นำของประเทศไทยในปัจจุบันเป็นเช่นใด พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้อย่างชัดเจนที่สุดแล้ว คนเลวขึ้นครองบ้านครองเมือง พระพุทธองค์ได้ทำนายไว้ว่า “คนดีทั้งหลายจะสิ้นอำนาจวาสนา คนพาลจะได้เป็นใหญ่เป็นโต และเมื่อคนมีอำนาจไม่ตั้งอยู่ในธรรม ขาดความเมตตา คอยใช้อำนาจรีดนาทาเร้น หรือติดสินบน ชาวบ้านชาวเมืองก็จะหนีไปอยู่ตามชายแดนหรือที่อื่น ๆ ทำให้ที่นั้น ๆ มีความมั่นคงเป็นปึกแผ่น” ยังกับว่าพระพุทธเจ้ากำลังเผ้าดูเหตุการณ์ในบ้านเมืองของเราอยู่อย่างใกล้ชิด และเห็นว่าคนพาลและนักการเมืองที่เนรคุณได้เป็นใหญ่เป็นโตโดยการร่วมมือกับฝ่ายเผด็จการเพื่อแสวงหาอำนาจ จนผู้รักประชาธิปไตยทนอยู่ไม่ได้ ต้องหลบหนีไปอยู่ตามชายแดนและประเทศเพื่อนบ้าน คนหลอกลวงกลับได้ดี พระพุทธองค์ได้ทำนายไว้ว่า “คำพูดของคนที่ไม่ควรจะได้รับความเชื่อถือ กลับจะได้รับความเชื่อถือ โดยเปรียบด้วยคำของคนที่ไม่น่าเชื่อว่ามีน้ำหนักเบาเหมือนกับผลน้ำเต้า ซึ่งปกติจะลอยน้ำ แต่เมื่อพูดแล้วคนเชื่อ คำพูดเหล่านั้นมีน้ำหนัก จึงเปรียบคำพูดนั้นว่ามีน้ำหนัก ราวกับน้ำเต้าที่จมน้ำได้ แต่ถ้อยคำของคนที่ควรได้รับการเชื่อถือ มีน้ำหนัก กลับไม่ได้รับความเชื่อถือ” ในประเทศไทยนั้น คำพูดเท็จมักจะได้รับความเชื่อถือเพราะคนพูดนั้นมีวาทะศิลปถึงแม้ว่าจะอ่อนประสบการณ์ในด้านบริหารก็ตาม กอรปกับสื่อมวลชนในประเทศไทยส่วนใหญ่ขาดคุณธรรมและจรรยาของการเป็นสื่อ หากินกับผู้มีอำนาจ ปั้นแต่งเรื่องเท็จให้เป็นเรื่องจริงได้ จนประชาชนบางส่วนคล้อยตาม เห็นดีเป็นชั่ว เห็นชั่วเป็นดี คนดีต้องหนีไปอยู่นอกประเทศไทย พระพุทธองค์ได้เคยฝันว่า ” ฝูงแกะพากันล่าฝูงเสือ และกัดกินทำให้เสืออื่น ๆ สะดุ้งกลัวจนต้องหนีไปแอบซ่อนตัวจากฝูงแกะ” ความฝันของพระพุทธเจ้าข้างต้นนี้ คือคำทำนายที่ว่า “คนชั่วหรือคนไม่ดีจะเรืองอำนาจ และใช้อำนาจไม่เป็นธรรม ทำให้คนดีถูกทำร้ายหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ต้องหลบหนีซ่อนตัวจากภัยร้ายเหล่านี้ เปรียบเสมือนเสือซ่อนตัวจากแกะ” คำทำนายของพระพุทธองค์ข้างต้นนี้ช่างสอดคล้องกับสถานการณ์ในประเทศไทยในปัจจุบันเสียเหลือเกิน นับตั้งแต่มีการก่อรัฐประหารเมื่อปี ๒๕๔๙ ฝ่ายเผด็จการเรืองอำนาจ และใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรม กล่าวคือ ล้มรัฐะรรมนูญของประชาชนและเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ขึ้นมาเองเพื่อรักษาอำนาจของคนเองและพวกพ้อง อีกทั้งยังจัดตั้งองค์กรอิสระและแต่งตั้งพวกของตนเองให้ดำรงตำแหน่งสำคัญ ๆ ในองค์กรเหล่านั้น รวมทั้งจัดตั้งรัฐบาลที่ประชาชนไม่ยอมรับ กวาดล้างผู้เรียกร้องประชาธิปไตย แทรกแซงสื่อมวลชน ริดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน และละเมิดสิทธิมนุษย์ชนอย่างกว้างขวาง จนทำให้คนดีและผู้รักประชาธิปไตยต้องถูกทำร้ายหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม คนดีที่เคยบริหารบ้านเมืองจนประสบความสำเร็จต้องหลบหนีออกนอกประเทศและซ่อนตัวจากภัยร้ายในประเทศไทยในยุคเผด็จการ ถึงเวลาหรือยังที่ผู้ที่เป็นพุทธบริษัทอย่างแท้จริง หรือผู้ที่นับถือศาสนาอื่น ๆ ที่สอนการทำความดีและหลีกเลี่ยงการทำความชั่วร่วมกันปฏิรูปประเทศไทย เพื่อขจัดคนชั่วและนำคนดีมีความรู้และประสบการณ์กลับเข้ามาบริหารประเทศ เพื่อนำความเจริญรุ่งเรืองกลับมายังประเทศของเรา และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความสุขและความอยู่ดีกินดีกลับมาสู่ประชาชนคนไทยโดยทั่วหน้า ดร. พิทยา พุกกะมาน อดีตเอกอัครราชทูต http://www.pchannel.org | |
http://redusala.blogspot.com |
ดาวน์โหลดคลิ๊ปคนเสื้อแดง
วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2554
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น